xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ลั่นไทยพร้อมเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวกักตัว จว.ยอดนิยม ขอร่วมมือให้จีดีพีโตร้อยละ 4

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ประยุทธ์” จ้อผ่านพอดแคสต์ ยันไทยพร้อมเดินหน้าเปิดประเทศแล้ว ไตรมาสสองนี้ เปิดรับนักท่องเที่ยวกักตัวได้ใน จว.ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ทั้ง ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ วอนทุกฝ่ายร่วมมือผ่านอุปสรรค ทำจีดีพีประเทศโตตามเป้าร้อยละ 4

วันนี้ (26 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวกับประชาชนในรายการ “นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง” ทางพอดแคสต์ (PODCAST) ผ่านเพจไทยคู่ฟ้า โดยกล่าวตอนหนึ่งถึงแผนการเปิดประเทศควบคู่การกระจายวัคซีน ว่า แผนการเปิดประเทศต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามสัดส่วนของการกระจายวัคซีนในไทยและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวสู่ระดับก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ซึ่งหัวใจสำคัญคือ ความร่วมมือของทุกคนในประเทศอย่างที่เคยเป็นมาเสมอ ทุกคนสามารถช่วยฟื้นฟูประเทศได้ด้วยการจับจ่ายใช้สอย ท่องเที่ยวในประเทศของผู้ที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ เพื่อให้กิจการทางเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นห่วงโซ่ ตั้งแต่ระดับฐานรากจนถึงภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งในระดับผู้บริโภครัฐบาลอัดฉีดมาตรการลดค่าครองชีพต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่วนการประกอบการรัฐบาลมีแผนที่จะเปิดประเทศสู่อุตสาหกรรมใหม่ พร้อมส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและพลังงานสะอาด หากภาครัฐและเอกชนร่วมมือเร่งรัดการลงทุน ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนจะทำให้ไทยไม่ตกขบวนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการรักษาโรคโควิด-19 ด้วยวัคซีนที่เริ่มเห็นผลในหลายประเทศ รัฐบาลตระหนักดีว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแต่ละภาคเศรษฐกิจและสังคมอาจไม่เท่ากัน จึงมีการวางรากฐานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการขยายโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการพื้นฐานอย่างเท่าเทียม ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำของไทยน้อยลงกว่าหลายประเทศในภูมิภาค รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนผ่านมาตรการช่วยเหลือทางการเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทิศทางนโยบายวัคซีนของประเทศไทย และแนวทางการเปิดประเทศแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ทั้วโลกและไทยจะยังไม่สงบดี แต่ต้องขอชื่นชมทีมบุคลากรทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และคนไทยทุกคน และ อสม. ที่ร่วมมือกันเป็นอย่างดีทำให้ตัวเลขการติดเชื้อและผู้เสียชีวิตของประเทศไทยอยู่ในอันดับท้ายๆ หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ทั้งนี้ เรามีความจำเป็นต้องกระจายการฉีดวัคซีนทั่วประเทศให้รวดเร็วยิ่งขึ้น รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายการฉีดวัคซีนมากเท่ากับนโยบายด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากวัคซีนสามารถปกป้องสุขภาพของคนไทยและเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำแผนการฉีดวัคซีนสำหรับคนไทยเพียงพอจำนวนประมาณ 65 ล้านโดส และคาดว่า จะสามารถฉีดให้กับประชากรประมาณร้อยละ 50 ภายในปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามหลักสากลที่ใช้กันอยู่โดยเรียงลำดับจากความเสี่ยง และตั้งเป้าว่าจะฉีดให้กับคนไทยและคนต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชนในการที่จะเข้ามาลงทุน รวมทั้งกระตุ้นประชาชนให้ออกมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย ในช่วงเวลารอยต่อก่อนที่จะเปิดประเทศ ประเทศไทยเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รัฐบาลตระหนักดีว่าทุกคนมีความสำคัญกับครอบครัว และมีเป้าหมายให้คนไทยเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพปลอดภัยและสามารถป้องกันโควิด-19 ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังเดินหน้ากระจายวัคซีนให้ทั่วถึงและเร็วที่สุด

“จากการรายงานขององค์การอนามัยโลก และองค์กรต่างๆ ยืนยันว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า มีความปลอดภัยไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ สามารถฉีดได้และสร้างความมั่นใจให้กับคนไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจซึ่งผมเองก็ฉีดไปแล้ว ยืนยันว่า รัฐบาลเลือกวัคซีนที่เหมาะสมเพื่อนำมาฉีดให้กับคนไทย รวมทั้งมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาส่งผลความเชื่อมั่นธุรกิจเอกชนในการค้าการลงทุนระยะยาว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับมาตรการการเปิดประเทศนั้น รัฐบาลได้มีการปรับนโยบายการกักตัวเพื่อเร่งการฟื้นตัวการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยตั้งแต่ต้นปี ศบค. ประกาศโครงการให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาตรฐานการตรวจคัดกรอง สามารถใช้เวลากักตัวได้ที่สนามกอล์ฟ เรือยอชต์ หรือเรือสำราญต่างๆ ได้ ระยะต่อไปจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถกักตัวได้ในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อาทิ ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ โดยจะเริ่มได้ในไตรมาสสองของปีนี้ สำหรับเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายน รัฐบาลจำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ความร่วมมือของประชาชนผู้ประกอบการ โดยรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะเปิดประเทศเต็มรูปแบบ กลับประเทศที่ปฏิบัติตามกฎกติกาขององค์การอนามัยโลก รวมทั้งระบบขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินการกระจายวัคซีนเพื่อกำหนดแนวทางการเปิดประเทศและอุตสาหกรรมการบิน ทั้งนี้เมื่อวัคซีนมีมากพอการท่องเที่ยวของไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะกลับมาดีขึ้นในปี 2565 รัฐบาลจะติดตามสถานการณ์ ทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น คู่ขนานไปกับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น เพื่อออกมาตรการการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่องรัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะฉีดวัคซีนให้กับคนไทยฟรี ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการ สิ่งที่รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนในปี 2564 ทางด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งแผนการฉีดวัคซีนที่มีความชัดเจนเชื่อมั่นว่าจะเป็นแรงส่งสำคัญให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายตามที่รัฐบาลตั้งไว้ คือ ร้อยละ 4 ถือว่าเป็นการตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันเดินหน้าฟันฝ่าและร่วมมือ เพื่อเอาชนะกว่าท้าทายให้ได้และกลับมาสู่สถานการณ์เหมือนช่วงก่อนโควิด-19 แพร่ระบาดได้ ในปี 2565 ในเร็ววัน


กำลังโหลดความคิดเห็น