“อนุทิน” เผย เล็งเจรจาคละซื้อวัคซีน คาดได้ใช้ของ “สยามไบโอไซเอนซ์” ช่วง มิ.ย.นี้ ไม่ให้ค่า “ธนาธร” คนไม่หวังดีกับบ้านเมือง อัดเป็นแค่วาทกรรมกลัวตกเทรนด์
วันนี้ (17 มี.ค.) เวลา 08.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน โดยเฉพาะการกระจายให้กับกลุ่มเสี่ยง ว่า เป็นไปตามแนวทางและแผนที่กระทรวงสาธารณสุขตั้งใจไว้ ส่วนกรณีการแพร่ระบาดที่บางแค จะไม่กระทบกับยอดวัคซีนเดิมที่มีการจัดสรรเอาไว้ โดยในวันที่ 20 มีนาคมนี้ วัคซีนจะมาถึงอีก 8 แสนโดส ใช้เวลา 3-4 วัน ในการเตรียมการตรวจมาตรฐานและเอกสารทั้งหมด เมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็สามารถนำมาใช้ได้ ทั้งนี้ ในช่วงเดือนเมษายนจะมาถึงอีกประมาณ 1 ล้านโดส ขณะนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กำลังเจรจานำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่นเข้ามาอีก เพื่อรองรับสถานการณ์ ช่วงนี้ถือว่า เราอยู่ในสภาวะที่มีเครดิตดี พอเราจัดซื้อและนำมาใช้จริงแล้วได้ผล ก็จะทำให้มีอำนาจในการเจรจาต่อรองดีขึ้น
นายอนุทิน กล่าวว่า หากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ระบุว่า ขั้นตอนการผลิต การทดสอบคุณภาพ และมาตรฐานวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ได้มาตรฐานดี ก็จะทยอยส่งให้ไทยได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ตามข้อตกลง เพื่อฉีดให้ประชาชนทั่วไปได้
เมื่อถามว่า จะมีการเจรจาบริษัทวัคซีนอื่นเพื่อนำเข้าเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้เจรจาได้บริษัทเดียว เพราะมีความพร้อมมากที่สุดในการส่งวัคซีนได้ในระยะเวลาที่เราต้องการ และในเดือนมิถุนายนก็จะได้จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ดังนั้น การจัดซื้อในช่วงนี้ไปจนถึงเดือนมิถุนายน จึงเป็นไปเพื่อนำมาใช้รองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดเฉพาะหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแพร่ระบาดในช่วงใกล้กับเทศกาลสงกรานต์จะกระทบต่อมาตรการที่จะคลายล็อกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ จะพิจารณาทุกอย่าง โดยนำเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ส่วนจะมีมาตรการอะไรเป็นพิเศษต้องฟังจากการประชุม เพราะจะต้องมีการสรุปและประเมินสถานการณ์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัย
ผู้สื่อถามถึงคลัสเตอร์บางแค สามารถขีดวงจำกัดได้แล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พยายามจะไม่ให้แพร่ออกไป แต่อาจจะมีบ้างที่เล็ดลอดออกไปบ้าง เพราะพบว่ามีหลุดไปที่ จ.ศรีสะเกษ 1 คน แต่ก็ติดตามตัวได้แล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามหลักการสาธารณสุข แต่ในปีนี้เรามีประสบการณ์ มียา และความพร้อมของระบบมากขึ้น ก็น่าจะดูแลสถานการณ์ได้ เมื่อมีวัคซีนมาก็ถือว่าเป็นปัจจัยบวกที่จะควบคุมได้ แต่สิ่งที่จะช่วยได้มากที่สุด คือ ความร่วมมือของประชาชน
เมื่อถามว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ยังออกมาโจมตีเรื่องของวัคซีน โดยระบุว่า นำข้อมูลเก่ามาชี้แจง นายอนุทิน กล่าวว่า เขาไม่เคยทันอะไรอยู่แล้ว เขาเคยทันอะไรรัฐบาลบ้าง มีแต่เรื่องเก่าพูดแล้วเป็นวาทกรรม พูดแล้วสนุกในกลุ่มของตัวเอง แต่พอออกมาสาธารณะ ก็โป๊ะแตกทุกที ฉะนั้น อย่าให้ความสนใจคนไม่หวังดีกับชาติบางเมือง เรื่องบ้านเมือง และชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่พวกตนและข้าราชการทุกคนคิดว่าเป็นสิ่งที่คิดว่าสูงสุด ต้องทำให้ปลอดภัยในทางสุขภาพ ดังนั้น คนที่มีวุฒิภาวะทางการเมืองต้องไม่นำเรื่องนี้มาเล่น ไม่นำประชาชนมาเป็นตัวประกัน ถ้าอยากรู้อะไรให้ถามมา อันไหนบอกได้จะบอก อันไหนมีขั้นตอนก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน อย่ามาสร้างชื่อเสียงเพราะกลัวตกเทรนด์ หรือกลัวคนจะลืม แล้วนำเรื่องที่รุนแรงมาทำลายขวัญกำลังใจประชาชน โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ที่ควรจะทำให้ประชาชนมีกำลังใจ ว่า รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถ้าไม่มีม็อบบ้านเมืองก็ผ่านสงกรานต์ไปได้ด้วยดี จึงขอให้รักชาติบ้านเมือง อย่าไปชังชาติ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีรัฐมนตรีบางคนไม่ฉีดวัคซีน โดยอ้างเหตุผลกังวลผลข้างเคียง เพราะต้องการจะมีบุตร จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นสิทธิของแต่ละคนและต้องเคารพ จึงต้องเคารพสิทธิส่วนบุคคลใครจะฉีดหรือไม่ฉีดก็ต้องเคารพ แต่ถ้าใครไม่ฉีดแล้วเกิดติดเชื้อขึ้นมา ก็ต้องตอบสังคมให้ได้ ส่วนจะมีผลข้างเคียงต่อการมีบุตรหรือไม่ ก็ไม่รู้ อยากให้ประชาชนยึดหลักการแพทย์ และกระทรวงสาธารณสุขที่ทำหน้าที่ฉีดวัคซีนให้ และเชิญชวนให้มาฉีดวัคซีนนั้น ใครจะฉีดหรือไม่ฉีดก็เป็นเหตุผลของคนนั้น เราไม่สามารถไปบังคับได้ ดังนั้น อย่าไปเชื่อเหตุผลของคนโน้นคนนี้ เพราะทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเอง