“ประชาธิปัตย์” ปราศรัยใหญ่ เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช อัดคู่แข่งขู่เลิก “เราชนะ-คนละครึ่ง” หากแพ้ “นิพนธ์” ซัด เริ่มต้นก็โกหกประชาชนแล้ว ด้าน “จุรินทร์” เตือนความจำ ภท.- ปชป.ก็ยกมือหนุน “ประยุทธ์” นั่งนายกฯ ลั่นไม่ว่าแพ้-ชนะ ยังร่วม ครม.จนกว่าจะแยกย้าย
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นการปิดท้ายการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย โดยมีแกนนำพรรคมาร่วมปราศรัยอย่างคึกคัก
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ ปราศรัยบนเวที ว่า มีคนปล่อยข่าวถ้าไม่เลือกเขาโครงการรัฐบาลต่างๆ จะยกเลิก ขอบอกว่าพูดโกหกทั้งนั้น ยังไม่เป็น ส.ส. ยังโกหกขนาดนี้ ถ้าได้เป็น ส.ส.แล้วจะโกหกขนาดไหน แต่ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย พูดไม่โกหก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบให้ตนเป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนไทย ดูแลจังหวัดสงขลา และ นครศรีธรรมราช นี่คือ คนที่นายกรัฐมนตรีมอบให้ดูแลจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสงขลา เพราะฉะนั้นโครงการต่างๆ ของรัฐบาลเดินหน้าไม่มียุติ ไม่มียกเลิก ไม่โกหกดังนั้น อย่ามาขู่ชาวบ้านอย่างนี้
“เล่นการเมืองอย่าโกหก พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคสถาบัน 75 ปีมาแล้ว เราไม่ใช่พรรคที่อยากจะให้ใครเป็นนายกฯ เราก็มาตั้งพรรคสนับสนุนชั่วครั้งชั่วคราว พูดได้ว่าเราเป็นพรรคคู่บ้านคู่เมืองตลอด 75 ปี ที่สร้างคนเป็นรุ่นๆ เพื่อพัฒนาชาติไทย 75 ปีที่พรรคประชาธิปัตย์อยู่มาย่อมมีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดพลาด หากมีสิ่งใดผิดใจพี่น้องไปต้องกราบขอโทษ และต้องจำไว้ว่าคนเล่นการเมือง ถ้าพูดโกหกแต่เริ่มต้นอย่าเลือก”
นายนิพนธ์ กล่าวด้วยว่า พรุ่งนี้เหลือเวลาอีก 1 วัน ใครมีรถให้ไปเติมน้ำมันให้พร้อม เพื่อขับไปบอกคนในครอบครัวว่าให้เลือกเบอร์ 3 หรือถ้ามีโทรศัพท์ก็โทร.ไปบอกทุกคนที่รู้จักให้เลือกนายเพื่อเลือก นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ ผู้สมัครเบอร์ 3 ให้สืบทอดสืบสานพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป และยังจะได้ตนเป็นของแถมด้วยเหมือนเลือกซื้อแฟบแถมตู้เย็น
ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่าโครงการคนละครึ่ง หรือ เราชนะ ล้วนเป็นผลงานของทุกคนในรัฐบาล ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง มีบางคนพูดว่า ถ้าเลือกพรรค... ที่สนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกฯ พูดอย่างนี้แสดงว่า ลืมพรรคภูมิใจไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ เสียแล้ว เพราะวันที่ พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกฯ พรรคภูมิใจไทย และ ประชาธิปัตย์ ก็ยกมือให้เหมือนกัน ดังนั้น พลเอก ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯ หรือไม่เป็นนายกฯ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งวันที่ 7 มี.ค. ว่าเลือกพรรคไหน แต่เพียงอย่างเดียว หรือใครจะเข้าไปเราก็ยังเป็นรัฐบาลสนับสนุนให้ทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะแยกย้ายจากกัน จึงต้องขอทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย
