วันนี้ (2 มี.ค.) นายพีระวิทย์ เลื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้เข้ารับวัคซีนล็อตแรกเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตนรู้สึกมีความหวังหลังจากวัคซีนล็อตแรกถูกฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ไปเมื่อวานนี้ ซึ่งอีกไม่นานประชาชนจะได้ทยอยฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้วหลังจากที่ประเทศไทยเผชิญกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดมาเป็นเวลา 1 ปีเต็ม ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาประชาชนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดไม่มากก็น้อย พี่น้องประชาชนทำมาหากินยากขึ้น เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ประชากรที่หาเช้ากินค่ำได้รับผลกระทบอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
นายพีระวิทย์กล่าวต่อว่า การที่รัฐบาลสามารถจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 มาดูแลพี่น้องประชาชน ไม่เพียงแต่เป็นสัญญาณว่าประชาชนจะปลอดภัยจากโรคนี้ แต่ยังหมายถึงหลังจากนี้จะมีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตปกติมากขึ้น เพราะขณะนี้ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มให้ภาคธุรกิจสถานประกอบการเปิดดำเนินการได้ แต่หลายกิจการต้องดำเนินการภายใต้ข้อจำกัด
“ในส่วนภาคท่องเที่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องยังมีสารพัดปัญหายังถาโถม แถมคาดเดาได้ยากว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาหรือไม่ ต้องยอมรับว่าตัวแปรหลักจึงอยู่ที่มาตรการรัฐ การจัดซื้อจัดจ้าง และการลงทุนของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ กับวัคซีนป้องกันโควิด หากรัฐบาลสามารถจัดการได้ไวและทั่วถึง โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนได้ครึ่งประเทศ ประมาณ 30 ล้านคน จบภายสิ้นปีนี้ เชื่อว่าจะเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ฟื้นเศรษฐกิจได้ การที่รัฐบาลสามารถบริการวัคซีนให้พี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง คือความหวังที่ประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง” นายพีระวิทย์กล่าว