“ภูมิใจไทย” เจ็บแล้วจำแม่น ไม่ปล่อยผ่าน “กบฏดาวฤกษ์” ที่จู่ๆก็มาสนใจ “สายสีส้ม” หักหน้า “หลวงพ่อป้อม” ลอบกัด “ศักดิ์สยาม” หรือจะเป็นหมากเอาคืนของ “เสี่ยฉาย เนชั่น” ที่เคยไล่ถล่ม “เสี่ยโอ๋” แต่ไม่เข้าเป้า
มันสายไปแล้ว A little too late
ปากคำของ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ยังคงติดใจกรณี 6 ส.ส. “ก๊วนดาวฤกษ์”นำโดย “มาดามเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ “แหกมติ-ผิดมารยาท” กด “งดออกเสียง”ให้ “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบรมว.คมนาคม เมื่อคราวศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 สัปดาห์ก่อน
แถมท้ายเน้นด้วย “too late” แบบไบลิงกัว 2 ภาษา ทั้งอังกฤษ ทั้งไทย ภาษาฝรั่งแปลไม่ยาก “สายเกินไป” แต่ภาษาไทยนี่เป็นทับศัพท์ “ทุเรศ”
ฟาดไปแบบแสบตามสไตล์ “เสี่ยหนู” ตาต่อตาฟันต่อฟันที่ “เกรียนคีย์บอร์ด” คุ้นเคยกันดี
คำชี้แจงของ “ก๊วนมาดาม” ที่ว่า “ศักดิ์สยาม” ชี้แจงไม่เคลียร์ รวมทั้งเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนนั้น “ฟังไม่ขึ้น”
ย้อนศรกลับไปด้วยว่า ถ้าสิ่งที่ “กลุ่มดาวฤกษ์” ทำ “ถูกต้อง” เพื่อนร่วมพรรคอีกมากกว่า 100 ชีวิตที่โหวตไว้วาง รมว.คมนาคม ตามมติพรรค ก็ “ผิด” กันกราวรูด
รวมทั้งมองหน้า คิวที่ “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ บากหน้าออกมาแถลงขอโทษขอโพยพรรคภูมิใจไทยนั้นก็ “ไม่แฟร์” เพราะ “เลขาฯแฮ้งค์” ไม่ใช่คนทำผิด
ส่วนจะมีบทลงโทษ-ลงทัณฑ์อย่างไรนั้น “เสี่ยหนู” ก็ไม่ก้าวล่วงบอก “บ้านใครบ้านมัน”
ขณะที่ “ต้นเหตุ” อย่าง “มาดามเดียร์” ที่ปล่อยให้คนอื่นออกหน้าขอโทษแทน ส่วนตัวเธอแค่โพสต์ขออภัย ทั้งที่ “ผู้ใหญ่” สั่งการให้แถลงข่าวชี้แจงแสดงความรับผิดชอบ แต่ก็ “เบี้ยวนัด” ซะอีก
ทำเอา “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดือดดาลเป็นที่สุด เกือบจะขับให้พ้นพรรค ดีที่เบรกกันไว้ทัน
จะว่าไม่แอคชันเลยก็ไม่ถูกซะทีเดียว ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ “มาดามเดียร์” ควง “โอ๋ บางกะปิ” ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็น ส.ส.ในกลุ่มดาวฤกษ์ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว
โดย “ฐิติภัสร์” ยืนยันความบริสุทธิ์ใจของกลุ่มดาวฤกษ์ ย้ำการโหวตงดออกเสียง รมว.คมนาคม ได้ตัดสินใจทำหน้าที่ในฐานะ “ส.ส.กทม. ฝั่งตะวันออก” ที่กังขาเรื่องการเปลี่ยนเงื่อนไข (ทีโออาร์) และการล้มการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไร้ความขัดแย้งส่วนตัว หรืออามิสสินจ้างใดๆ
ในฐานะ ส.ส.บางกะปิ ที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี พาดผ่าน ทำนองเดียวกับเพื่อนร่วมก๊วนอย่าง ศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ที่อยู่ในเขตหนองจอก ก็อาจพูดได้ว่า ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความเป็นไปของโครงการ “สายสีส้ม”
แต่คงลืมไปว่าตัวเองมีสถานะเป็น “ส.ส.รัฐบาล” มีช่องทางการคัดค้าน หรือเสนอแนะถึงกระทรวงคมนาคม โดยไม่ผิดมารยาทมากมายอาจจะด้วยความเป็น “ส.ส.สมัยแรก” ที่ไม่รู้จักคำว่า “มารยาททางการเมือง” ก็เป็นได้
แล้ว “โอ๋ ศิษย์เดียร์” คงหลงลืมอีกว่า ที่ท้วงๆว่าโครงการถูกล้มประมูลนั้น ก็เป็นโครงการสายสีส้มตะวันตก จากศูนย์วัฒนธรรมฯไปบางขุนนนท์ ขณะที่พื้นที่บางกะปิ-หนองจอก อยู่ในวิสัยของสายสีส้มตะวันออก จากมีนบุรีมาศูนย์วัฒนธรรมฯ
และอาจจะไม่ทันฟัง “ศักดิ์สยาม” ชี้แจงว่า การตัดสินใจล้มประมูลนั้น อาจทำให้โครงการเดินหน้าเร็วกว่าที่เป็นอยู่ เพราะกันมี “ผู้เล่น” ไปยื่นร้องต่อศาลปกครองไว้
น่าสนใจไม่น้อยที่ “ฐิติภัสร์-ศิริพงษ์” และกลุ่มดาวฤกษ์ ต่างเห็นประเด็นล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก จากศูนย์วัฒนธรรมฯไปบางขุนนนท์ เป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่งยวด แต่ก็เหลือเชื่อว่า ก่อนหน้านี้ 6 ส.ส.ก๊วนมาดาม ไม่ยักจะเคยออกมาแสดงความคิดเห็น หรือมีบทบาทเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เลย
เพิ่งมานิมิตเห็นความสำคัญในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนี่เอง
แล้วเหตุใดพอแผลงฤทธิ์แล้ว “มาดามเดียร์”ในฐานะหัวหน้าก๊วน จึงไม่ชี้แจงแถลงไขเอง ต้องดัน “ลูกน้อง” ออกมาอ้างข้างๆคูๆว่า เป็น ส.ส.ในพื้นที่รถไฟฟ้าสายสีส้มวิ่งผ่าน
หรือเกรงว่าจะเข้าอิหรอบ “ขว้างงูไม่พ้นคอ” เอาเรื่อง “ส่วนตัว” มาพัวพัน “ส่วนรวม” ก็เป็นได้
เพราะเมื่อสืบสาวราวเรื่องลงไปแล้ว เส้นสายโยงใยไปถึง “เอกชนรายหนึ่ง” ที่ซื้อซองประมูล และเป็นผู้ที่ฟ้องศาลปกครอง กรณีเปลี่ยนเงื่อนการประมูล
คนในแวดวงการเมือง-วงการคมนาคม อ่านออกไม่ยาก รู้ว่า ฉาย บุนนาค แห่งเครือเนชั่น สามีของมาดามเดียร์ เป็นใครมาจากไหน และคิดอ่านจะทำอะไรอยู่
ใครๆก็ไม่ลืมวีรกรรม “สื่อค่ายบางนา” ที่กระเหี้ยนกระหือรือไล่ถล่ม “ศักดิ์สยาม” และพรรคภูมิใจไทย มาตลอด เพื่อหวัง “ดีล” บางประการ
แต่ “ไม่เข้าเป้า” เมื่อ “ค่ายเซราะกราว” ไม่เล่นด้วย แถมสั่งเครือข่ายไล่ฟ้อง “ค่ายบางนา” หมิ่นประมาททั่วประเทศ คดีค้างเติ่งยังไม่ไปไหน
คำถามมีว่า เหตุผลที่แท้จริงที่ “กบฏดาวฤกษ์”กล้าหักหน้า “ลุงป้อม” งดออกเสียงให้กับ “ศักดิ์สยาม”เป็นหมากเอาคืนของ “เสี่ยฉาย” หรือไม่
งานนี้ “หลวงพ่อป้อม” คงจะอยู่เฉยไม่ได้.