รมว.ทส.ย้ำ กระทรวงเน้นเจรจาสางปัญหาบางกลอย เหน็บคนนอกพื้นที่หยุดดรามา แจงเจรจายังไม่จบไม่ได้ล่ม ยันแก้ปัญหาคาราคาซังเสร็จในปีนี้ พร้อมเยียวยา แต่ชี้รุกพื้นที่เพิ่มถือว่าผิด กม. ป้อง จนท.ไม่มีการข่มขู่
วันนี้ (1 มี.ค.) เวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาการเจรจากับชาวบ้านบางกลอย-ใจแผ่นดิน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่มีกระแสข่าวการเจรจาล่มว่า การเจรจาไม่มีล่ม มีเพียงแต่ว่ายังเจรจาไม่จบเท่านั้น เมื่อยังไม่จบ ก็เจรจากันไปเรื่อยๆ แต่อย่างที่ตนพูดเสมอว่ามีหลายฝ่ายพยายามโยงให้เป็นประเด็นเรื่องกลุ่มชาติพันธุ์ และสิทธิมนุษยชน ซึ่งตนได้บอกไปแล้วว่าประเด็นดราม่าเหล่านี้สังคมชอบ แต่ไม่ใช่ปัญหาจริงที่เกิดขึ้น สุดท้ายผลกระทบที่เกิดในที่สุดก็จะเกิดกับพี่น้องชาวบางกลอยเอง
นายวราวุธกล่าวว่า ดังนั้น สิ่งที่กระทรวงฯ ทำอยู่ตอนนี้ คือ การหาวิธีและมาตรการเยียวยาให้แก่พี่น้องชาวบางกลอย 100 กว่าชีวิต ทั้งเรื่องที่ทำกิน สิ่งอำนวยความสะดวก และน้ำทำการเกษตร ซึ่งดำเนินการคืบหน้าไปพอสมควร
“ยืนยันว่าพื้นที่ต่างๆ ที่ถูกบุกรุกเพิ่มนั้นถือว่าไม่ถูกกฎหมาย ทางกระทรวงฯ ยึดการทำงานตามกฎหมายทุกอย่าง ดังนั้นก็ต้องขอร้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ด้วย ปัญหาที่คาราคาซังมานานหลายปี ตอนนี้ยืนยันว่ากระทรวงฯ จะแก้ไขเสร็จภายในปีนี้แน่นอน” นายวราวุธกล่าว
นายวราวุธกล่าวอีกว่า คนที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะคนบางกลุ่มที่มักจะชอบขยายความ ขอเรียนย้ำว่าพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวและเป็นพื้นที่อนุรักษ์ หากไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปก็จะเกิดปัญหาอย่างที่เห็น มีการบุกรุก แผ้วถาง และเผาอย่างชัดเจน โดยการอ้างว่าเป็นการไถพื้นที่เดิม แต่เมื่อสำรวจทางอากาศแล้วพบว่าไม่ได้เป็นการไถพื้นที่เดิมแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงต้องเข้าไปดูแลไม่ให้มีการบุกรุกเพิ่ม และเป็นการปกป้องสิทธิมนุษยชนของประชาชนคนไทยด้วยเช่นกันในการที่จะมีผืนป่าที่สมบูรณ์ รวมถึงเกษตรกรที่จะต้องอนุรักษ์ป่าต้นน้ำเอาไว้ และเพื่อรักษาปริมาณน้ำที่จะไหลลงเขื่อน
นายวราวุธกล่าวว่า การให้เจ้าหน้าที่ขึ้นไปดูแลเรื่องต่างๆ แล้วจะมาบอกว่าเป็นการข่มขู่นั้นก็พูดง่าย ทั้งที่บางคนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ก็พูดไปต่างๆ นานา ชอบดรามา แต่ถ้าถามชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่จริงมันไม่ใช่ มันไม่ใช่ประเด็นเหล่านี้เลย ไม่ได้มีการข่มขู่ ทั้งนี้ หลายคนพยายามให้เกิดความรุนแรง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่นโยบายของกระทรวงฯ เพราะนโยบายของกระทรวงฯ คือการเจรจา ขอให้ทุกคนหยุดในสิ่งที่ตัวเองกระทำแล้วเคารพกฎหมาย ทุกฝ่ายต้องทำตามกฎหมาย