เมืองไทย 360 องศา
หากพิจารณาจากบรรยากาศและอารมณ์ของบรรดาแกนนำ“ม็อบสามนิ้ว”ในเวลานี้ก็ต้องบอกว่า“น่าเห็นใจ”เหมือนกัน เพราะเมื่อสำรวจจากสถานการณ์ความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าเวลานี้ ที่ถือว่าเป็นช่วง “ขาลงแบบทิ้งดิ่ง” มันก็ยิ่งทำให้จิตใจต้องปั่นป่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นบทสรุปทางคดีของบรรดาแกนนำ “กปปส.”ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกกันระนาว มันก็ยิ่งทำให้เกิดแรงสะท้อนในใจกลับมาถึงพวกเขาอย่างรุนแรง
เพราะหากพิจารณากันแบบไม่ต้องศึกษาที่มาที่ไปกันมาก รวมไปถึงมีการพูดถึงไปต่างๆ นานา ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากยังมีผลกระเพื่อมไปถึงเรื่องการพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี และตำแหน่งทางการเมือง พ้นจากส.ส. ที่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมตามมา ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง รวมไปถึงการปรับคณะรัฐมนตรี
แต่หากโฟกัสในทางคดี ก็ต้องบอกว่าพวกแกนนำ กปปส. กำลังเดินทางมาไกลอย่างน้อยก็มีคำพิพากษาจากศาลชั้นต้นมาแล้ว กำลังเข้าสู่ศาลอุทธรณ์ และฎีกา เป็นลำดับถัดไป ความหมายก็คือ แม้เส้นทางข้างหน้ายังอีกยาว แต่สำหรับ กปปส.แล้ว ก็ผ่านมาแล้วหนึ่งด่านสำคัญ แม้ว่าจะมีจุดจบที่น่าเจ็บปวดพอควร แต่อีกด้านหนึ่งก็ยังได้ใจมวลชน ที่ยังคงเส้นคงวาอย่างหนาแน่น
เพราะเชื่อมั่นว่าได้ร่วมต่อสู้กับรัฐบาลทุจริต ฉ้อฉล และการต่อต้านการออกกฎหมายเพื่อลบล้างความผิดให้ตัวเอง
ขณะเดียวกัน เมื่อวกกลับมาโฟกัสที่บรรดาแกนนำหรือ “หัวโจกสามนิ้ว”ที่เวลานี้มีจำนวน 4 คน ที่ไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล ในความผิดตาม มาตรา 112 และ มาตรา 116 รวมอีกหลายความผิด อันประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ“เพนกวิน” นายอานนท์ นำภา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ “หมอลำแบงค์”
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราว 4 จำเลย ดังกล่าว โดยระบุว่ายังไม่มีเหตุผลให้ยกเลิกคำสั่งเดิม หลังจากที่มีความพยายามยื่นขอประกันตัวกับศาลมาแล้วรวมถึง 4 ครั้ง
เหตุผลหลักที่ศาลไม่ให้ประกันตัว 4 แกนนำม็อบสามนิ้วที่ว่านี้ เท่าที่ประมวลก็คือ ข้อหาตามความผิดมีอัตราโทษสูง จำเลยมีพฤติกรรมทำความผิดซ้ำโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยเฉพาะความผิดตาม มาตรา 112 ที่มีการเคลื่อนไหวที่กล่าวถึงพระมหากษัตริย์ ที่กระทบจิตใจของประชาชนจำนวนมาก
ความหมายก็คือ หากปล่อยตัวชั่วคราวออกไป “ก็กระทำผิดแบบเดิมซ้ำซาก”หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ศาลให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน (ตำรวจ) หลายครั้ง และมีเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันอีก แต่จำเลยพวกนี้ก็ไม่เคยสนใจ ตรงกันข้ามกลับท้าทายกฎหมาย ทำแม้กระทั่งเคลื่อนไหว“กดดันศาล”อยู่หลายครั้ง
ดังนั้น เมื่อมีความพยายามกันทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้มวลชน ทั้งรวบรวมรายชื่อนักวิชาการในเครือข่ายพวกเดียวกัน อดีตอธิการบดี ที่ชราภาพ เช่น นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีต คณบดี คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเดียวกัน ขอเป็นนายประกัน ก็ไร้ผล
จนล่าสุดมาถึงการยืนยันในเรื่องอาชีพ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และเพิ่มวงเงินประกันรวมไปถึงอ้างเสรีภาพ เนื่องจากเห็นว่าคดียังไม่ถึงที่สุด ถือว่า “ยังเป็นผู้บริสุทธิ์”แต่ศาลอุทธรณ์ ก็ยกคำร้อง ซึ่งก็แน่ชัดอยู่แล้วก็คือ พวก 4 จำเลยไม่หยุดพฤติกรรมเคลื่อนไหวจาบจ้วง นี่ต่างหากที่ศาลไม่ให้ประกันตัว ในทางตรงกันข้าม หากมีการยืนยันว่าต่อไปผู้ต้องหาจะไม่เคลื่อนไหวในลักษณะแบบเดิมอีก ก็ไม่แน่ว่าอาจได้รับการพิจารณาก็ได้ ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ตรงนี้ต่างหาก
เอาเป็นว่า สำหรับแกนนำมีชื่อทั้ง 4 คนดังกล่าวนี้ ถือว่า “จบแล้ว”นั่นคือ “คุกยาวไป”จนกว่า “การพิจารณาคดีจะเสร็จสิ้น”ซึ่งหากพิจารณาถึงระยะเวลา เมื่อเปรียบเทียบกับคดีอาญาทั่วไปก็น่าจะใช้เวลานานนับปี อาจถึงสาม-สี่ปี ก็ได้ นาทีนี้ถึงได้บอกว่าให้ทำใจได้แล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืม และเผื่อใจไว้อีก เนื่องจากนี่เป็นเพียงแค่คดีแรกเท่านั้น ก็ “ป๊อก”แล้ว ยังเหลือคดีในลักษณะเดียวกันอีกนับสิบคดี ที่กำลังจ่อคิวอยู่ ดังที่ทราบกันดี
ขณะเดียวกัน เมื่อพูดถึง ม็อบสามนิ้ว 4 คนนี้แล้ว ยังมีแกนนำสามนิ้วอีก"ล็อตใหญ่" จำนวน 18 คน ที่ทางอัยการนัดสั่งฟ้องในความผิดตาม มาตรา 112 และ มาตรา 116 ในวันที่ 8 มีนาคมนี้ โดยผู้ต้องหาที่จ่อจะเป็น“จำเลย”ชุดนี้จะมี น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง”นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ“ไมค์”และ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน”เป็นต้น
ซึ่งแน่นอนว่า ด้วยพฤติกรรมที่เป็นแบบเดียวกัน ความผิดในแบบเดียวกัน และเมื่อเปรียบเทียบกับคำสั่งศาลที่ยืนยันยกคำร้อง 4 จำเลยก่อนหน้านี้แล้ว แม้ว่าจนถึงวันนั้นยังไม่รู้ผลจะออกมาแบบบวก หรือลบ แต่หากให้เดา และเชื่อว่าบรรดา“หัวโจก”พวกนี้ก็น่าจะรู้ในใจกันดีอยู่แล้ว ว่าจะออกมาแบบไหน
อย่างไรก็ดี มาถึงนาทีนี้เชื่อว่าบรรดาแกนนำสามนิ้ว น่าจะทำใจได้ในระดับหนึ่งแล้ว หลังจากที่ศาลอุทธรณ์ยืน ยกคำร้องประกันตัว เพราะมีพฤติกรรมแบบเดิมซ้ำซาก ทำร้ายกระทบจิตใจคนไทยจำนวนมาก ซึ่งหากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวพวกเขาก็ยังไม่หยุด ยัง“เดินทะลุฟ้า” อะไรนั่นอยู่อีก ก็ได้แต่หวังว่า ในวันที่ 8 มีนาคมนี้ ศาลคงให้ประกันตัว แต่หากให้คาดเดาเชื่อว่า ยากเต็มทน !!