อดีตโฆษก ปชป. ให้กำลังใจ แกนนำ กปปส. นอนคุก ชี้ ขาดอิสรภาพวันนี้ แต่มีโอกาสได้ประกันตัว เหตุไร้อำนาจยุ่งพยานหลักฐาน ไร้พฤติกรรมทำผิดซ้ำ ไม่หลบหนี ดักอย่าเอาไปเทียบก๊วน ม. 112 ยก รธน. 98(6) มัด 5 ส.ส.หลุดเก้าอี้แล้ว
วันนี้ (25 ก.พ.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ลงเฟซบุ้กเรื่องให้กำลังใจนักต่อสู้ เคารพกระบวนการยุติธรรม ก่อนอื่นผมให้กำลังใจทุกท่านที่ต่อสู้เพื่อบ้านเมือง และยังต่อสู้กับทุกคดีความแบบองอาจ สง่าผ่าเผย แม้วันนี้จะขาดอิสรภาพ แต่ยังมีหวังที่ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวได้ เนื่องจากคดีไม่ได้อุกฉกรรจ์ร้ายแรง อีกทั้งจำเลยทั้งหมดไม่มีอาจเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เพราะคดีพิจารณาเสร็จแล้ว และไม่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะที่จะทำผิดซ้ำ และคงจะไม่หลบหนีเพราะมาศาลและต่อสู้ตามกระบวนการมาตลอด จึงไม่ควรมีใครนำกรณีนี้ไปเทียบกับผู้ต้องหาในคดีอาญา 112 เพราะเทียบกันไม่ได้ เนื่องจากคนเหล่านั้นมีพฤติกรรมทำผิดซ้ำซากอยู่ตลอดเวลา จึงไม่ได้รับการประกันตัวออกมาก่อคดีอีก
ส่วนกรณี ส.ส.ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างรอคำสั่งของศาลอุทธรณ์ มีปัญหาว่า ส.ส. เหล่านี้พ้น จากสมาชิกภาพแล้วหรือไม่ ซึ่งตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ การจะควบคุมตัวหรือขังผู้ต้องหาหรือจำเลย ได้นั้น ต้องอาศัยคำสั่งหรือหมายจากศาล ซึ่งมีอยู่ 4 ประเภท คือ 1. หมายขัง ระหว่างสอบสวน 2. หมายขังระหว่างไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา 3. หมายจำคุกระหว่างอุทธรณ์หรือฎีกา 4. หมายจำคุก กรณีคดีถึงที่สุด
“กรณีของ 5 ส.ส. กลุ่ม กปปส. ที่ถูกศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุกและอยู่ระหว่างรอคำสั่งขอปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลอุทธรณ์ ผมเห็นว่า สถานภาพของกลุ่ม ส.ส. ดังกล่าวสิ้นสุดลงแล้วรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) คือ มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98(6) ที่ระบุว่า “ต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกและถูกคุมขังโดยหมายของศาล” เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ขณะนี้ ส.ส.กปปส.ทั้ง 5 ถูกคุมขัง โดยหมายจำคุกระหว่างอุทธรณ์หรือฎีกาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จึงถือว่าสมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(6) แล้ว” นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย