“นิพนธ์” ชี้ปรับ ครม.หากเกลี่ยโควตาใหม่ต้องคุยก่อน ดูเหตุผลรับได้หรือไม่ แต่ตอนนี้ขอยึดข้อตกลงเดิม ลั่นอำนาจตัดสินใจอยู่ที่ “นายกฯ”
วันนี้ (25 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตัดสินของศาลในคดีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ซึ่งมีรัฐมนตรีรวมอยู่ด้วย 3 คนว่า เบื้องต้นก็ต้องเคารพการตัดสินคำพิพากษาของศาล แต่คิดว่าทุกท่านที่ทำไปในขณะนั้นด้วยเจตนาดีต่อบ้านเมือง ฉะนั้น เมื่อการกระทำอาจจะไปผิดกฎหมายบ้าง เราก็ต้องมาดูและถือเป็นบทเรียน สิ่งที่ต้องเอามาใช้ต่อไปก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น แต่ตนยังเชื่อว่าทุกท่านมีเจตนาดีต่อบ้านเมืองในสถานการณ์ขณะนั้น
เมื่อถามว่าได้มีการแจ้งมาในเรื่องการประกันตัวหรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า ยัง และขั้นตอนทางฝ่ายกฎหมายก็ดำเนินการกันไป และคิดว่าวันเดียวกันนี้จะมีการยื่นขอประกันตัว
เมื่อถามถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำเป็นต้องยึดเก้าอี้โควตาเดิมหรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน คิดว่าต้องรอให้สถานการณ์ชัดเจน และรอให้นายกฯ แจ้งในสิ่งเหล่านี้ก่อน เพราะการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ
เมื่อถามว่าจำนวนเสียงของพรรคภูมิใจไทยมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์กล่าวว่า ก็ต้องมาดูกันว่ามากอย่างไร ใช้ตัวเลขอะไรเป็นตัวฐานคำนวณ
เมื่อถามต่อว่าไม่น่าจะนำเสียงของพรรคอื่นมารวมใช่หรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า ต้องมาดูเสียงว่าเป็นอย่างไร ตนคิดว่าต้องพูดคุยกัน เมื่อถามย้ำว่าจะกลายเป็นปัญหาของรัฐบาลหรือไม่ หากมีการปรับ ครม.และต้องมาเกลี่ยตำแหน่งกันใหม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า ต้องมาพูดคุยกันว่าเดิมเราคุยกันไว้อย่างไร และถ้าจะเปลี่ยนมีเหตุผลอะไรในการเปลี่ยน ตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องมาพูดคุยกัน การเมืองต้องพูดคุย
เมื่อถามต่อว่าหากมีการยึดเก้าอี้ในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์คืนไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่หรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า “ผมยังไม่บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร ต้องไปดูว่าเดิมคุยกันอย่างไร ฐานเสียงเดิมเป็นอย่างไร”
เมื่อถามว่าอีกว่าแสดงว่าให้ยึดคำพูดเดิมที่เคยตกลงกันไว้ใช่หรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า ในขณะนี้ควรเป็นอย่างนั้น ตนเพิ่งทราบว่าจะมีเรื่องการปรับเกลี่ยโควตากัน ถ้ามีการเปลี่ยนเกลี่ยกันใหม่ต้องดูเหตุผลรับได้หรือไม่ ส่วนจะต้องพูดคุยกันในพรรคก่อนที่จะพูดคุยกับนายกฯ ก่อนหรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า ก็ต้องรับสัญญาณก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ในฐานะที่มีรัฐมนตรีของพรรคอยู่ด้วยในกรณีนี้ พรรคก็ต้องเตรียมและพูดคุย ส่วนหากมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของนายนิพนธ์เองก็พร้อมใช่หรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า ก็ต้องว่ากันตามมติพรรค พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครพูดได้คนเดียว ต้องดูมติพรรคเป็นอย่างไร
เมื่อถามอีกว่าในช่วงเวลานี้คิดว่าจะปรับ ครม.แค่ตำแหน่งที่ว่างหรือควรจะดูให้ครอบคลุมทั้งหมด นายนิพนธ์กล่าวว่า แล้วแต่นายกฯ เพราะอำนาจในการปรับ ครม.อยู่ที่นายกฯ คนเดียว ส่วนมีการมองกันไปไกลว่าควรมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ คิดว่าเหตุผลนี้จำเป็นหรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า ตนยังไม่มีความเห็นเรื่องนี้ เพราะตนคิดว่าไม่ใช่ข้อขัดแย้งระหว่างสภากับรัฐบาล