“อนุทิน” เผยวัคซีนถึงไทยพรุ่งนี้ 2 ยี่ห้อ คอนเฟิร์ม “ประยุทธ์” ประเดิมฉีดวัคซีนเข็มแรกของไทย ใช้ ยี่ห้อแอสตราเซเนกา ไม่ใช่ซิโนแวค เหตุมีข้อจำกัดเรื่องอายุ ก่อนฉีดพยาบาลต่อ ระบุหากไม่มีดรามาคงมาถึงไทยก่อนหน้านี้แล้ว
วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการฉีดวัคซีนให้แก่คนไทยว่า เรื่องนี้ต้องให้ นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการ อำนวยการบริหารจัดการให้วัคซีนป้องกัน โควิด-19 เป็นคนชี้แจงจะดีที่สุด โดยสื่อมวลชนจะต้องติดตามการแถลงของ นพ.โสภณเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะสามารถฉีดวัคซีนเป็นเข็มแรกของประเทศไทยเลยได้ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ได้ นายกฯ ต้องเป็นเข็มแรกเพราะเป็นผู้นำประเทศ ซึ่งต้องมีกระบวนการประเมินความเสี่ยงโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นขั้นตอนตามวิธีการสากล ไม่ใช่วิธีปฏิบัติต่อบุคคลใดเป็นพิเศษ ทั้งนี้ นายกฯ จะได้รับวัคซีนที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ คือไม่ใช่ซิโนแวค เพราะซิโนแวคมีข้อจำกัดเรื่องอายุ แต่เป็นอีกยี่ห้อหนึ่ง คือ แอสตราเซเนกา โดยผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนเป็นผู้จัดหามาให้ก่อน ส่วนจะฉีดเมื่อไหร่นั้นต้องรอให้ นพ.โสภณเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด และเมื่อนายกรัฐมนตรีฉีดวัคซีนแล้วก็สามารถปฏิบัติงานในหน้าที่ได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนนายอนุทินเองจะเป็นคนฉีดเข็มที่ 2 ของประเทศไทยใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเขาให้ฉีด เพราะคนที่ฉีดซิโนแวค หมายความว่าเป็นคนหนุ่ม คืออายุไม่เกิน 60 ปี
นายอนุทินกล่าวว่า ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ วัคซีนทั้งสองยี่ห้อ คือ แอสตราเซเนกา จำนวน 117,000 โดส และซิโนแวคจะเดินทางมาถึงประเทศไทย และความจริงถ้าไม่มีดรามาเกิดขึ้นกันมาก วัคซีนก็จะมาถึงประเทศไทยก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนการเว้นระยะฉีดระหว่างเข็มแรกกับเข็มที่ 2 นั้นของซิโนแวคจะต้องเว้นห่างกัน 14-28 วัน ส่วนแอสตราเซเนกาเว้นห่างกันประมาณ 6 สัปดาห์ ทั้งนี้ รายละเอียดทางวิชาการตนอาจจะระบุรายละเอียดไม่ได้มากนัก เพราะเป็นแผนกสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันจะเริ่มต้นฉีดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงก่อนใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า การฉีดวัคซีนจะเริ่มต้นที่สถานพยาบาลก่อน เนื่องจากเป็นวัคซีนใหม่ ทางกรมควบคุมโรคจะต้องมีความมั่นใจว่าจะทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อประชาชน โดยจะต้องสังเกตอาการภายหลังฉีดวัคซีน 30 นาที จากนั้นกระทรวงสาธารณสุข และสถานพยาบาลต่างๆ จะให้ยาแก้แพ้ ให้ตามอาการจากเบาไปหาหนัก เชื่อว่าไม่มีอะไรมากมาย