นางจรรยา อินทะนิน ผู้จัดการสหกรณ์แก้วเกษตร จำกัด จังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่าการทำเกษตรจะปลูกผักอินทรีย์100 % ตามแนวทางของสหกรณ์ฯว่า ต้องมีใจรักสุขภาพต้องเข้าไปอบรมทุกขั้นตอนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากสหกรณ์จังหวัด จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ รวมไปถึงการได้รับการส่งเสริมจากนโยบายของนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่เมล็ดพันธุ์ต้องรู้ที่มา โดยทางกรมวิชาการเกษตรได้เข้ามาแนะนำและช่วยตรวจสอบด้วย
สำหรับ สหกรณ์แก้วเกษตร จำกัด จังหวัดนครปฐม มีภารกิจ สนับสนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์เเละจำหน่ายสินค้าที่ผ่านการตรวจสอบสินค้าปลอดสารพิษ ซึ่งเป็นผลผลิตจากสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรที่อยู่ในจังหวัดใกล้เคียงที่ทำผักและผลไม้อินทรีย์ โดยมีการยืนยันการตรวจสอบคือมีใบมาตรฐานออร์เเกนิกไทยเเลนด์เป็นเครื่องรับรอง ทางสหกรณ์ถึงจะรับซื้อสินค้านั้น ปัจจุบันมีลูกค้าเป็นห้างสรรพสินค้าโมเดิรน์เทรด โดยส่งไปกระจายสินค้าส่งท็อปซุปเปอร์มาเก็ต เริ่มต้นดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2561 แต่เมื่อปี 2563 ก็ได้รับผลกระทบกับโรคระบาดโควิด 19 ทำให้รายได้ลดลง ที่นี่เน้นย้ำว่า ส่งเสริมให้ปลูกพืชผักและผลไม้อินทรีย์ ถ้าไม่มีเกษตรกรกรก็จะไม่มีผลผลิตที่ดี และที่สำคัญผลผลิตทั้งหมดผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าคัดกรองอย่างรัดกุมเพื่อเป็นอินทรีย์100%
ขณะที่ นางอนงค์ ภักดี เกษตรกรผู้ปลูกผักอินทรีย์ 100% เปิดเผยว่า การปลูกผักอินทรีย์จึงต้องทำด้วยใจรัก และในอนาคตจะพาลูกหลานกลับบ้านเพื่อมาสืบทอดการเป็นเกษตรกร ปัจจุบันผักอินทรีย์ถ้าปลูกดีและดูแลเป็นอย่างดีจะมีรายได้ดี อย่างเกษตรกรบางคน ปลูกสระแหน่ราคากิโลกรัมละ 80 บาทเลยทีเดียว สอดคล้องกับนายสมชาติ ฐิติสรวงเกษม เกษตรกรผู้ปลูกผักอินทรีย์ 100% ยืนยันว่าสร้างรายได้และดีต่อสุขภาพทั้งผู้ปลูกและผู้บริโภค
ด้านนางปารณีย์ ลมกิ่ง สหกรณ์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า สหกรณ์แก้วเกษตร จำกัด ได้รับการดูแลและการแนะนำถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆ ที่สำคัญที่สุดได้รับการเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครปฐมอย่างดีเยี่ยม มีการเข้าตรวจเยี่ยม แนะนำการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์แก้วเกษตร จำกัดให้พัฒนา และรับรู้ ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของสหกรณ์เพื่อนำไปแก้ไขและต่อยอดเกิดการสร้างรายได้ และนำผลผลิตสู่ผู้บริโภคอย่างมีคุณภาพ