“สุทิน” จ้อสื่อก่อนเริ่มศึกซักฟอกวันที่ 2 โวยประท้วงมากทำสะดุด คนดูเบื่อ ระบุคนที่ว่าฝ่ายค้านไม่สมราคาเป็นกองเชียร์รัฐบาล แนะคนฟังปรับรสนิยมให้ทันการเมืองแนวใหม่ เตือน “บิ๊กตู่” ระวังลูกน้องหลอกกินกล้วย มั่นใจคนเพื่อไทยไม่ย้ายซบ พปชร.แน่นอน
วันนี้ (17 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรกว่า ภาพรวมพอใจเพราะเป็นวันแรกที่เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่เข้มข้นมาก เป็นแค่การเปิดหัวแตะเอาไว้ หลายเรื่องคนฟังอาจจะดูว่ายังไม่มีอะไรสะใจ แต่การอภิปายในวันนี้และวันถัดไปพอลงรายละเอียดจะน่าสนใจและมีอะไรดีๆ มากขึ้น ส่วนการบริหารเวลายังอยู่ในเป้าหมาย แต่หากประท้วงมากไปจะเป็นการขัดจังหวะทำให้การอภิปรายของหลายคนที่ยังไม่มีทักษะการพูดในสภาเสียจังหวะ และคนทางบ้านอาจไม่สบอารมณ์ จึงน่าเสียดายที่เตรียมข้อมูลและเรื่องดีๆ ไว้พอมีก็โดนประท้วงเยอะในเรื่องเหนือความคาดหมาย จนเสียกระบวนการนำเสนอ
เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่สมราคา นายสุทินกล่าวว่า คนที่พูดคงเป็นฝ่ายรัฐบาล และประธานวิปรัฐบาลประเมินว่าไม่สมราคา เป็นธรรมดาที่รัฐบาล ฝ่ายที่ไม่ชอบเรา ฝ่ายกองเชียร์รัฐบาล คงบอกว่าไม่สมราคา แต่จะสมหรือไม่สมต้องฟังจากประชาชน ถ้าถามกองเชียร์ของเราก็บอกว่าสมราคา
“ที่บอกเช่นนี้อาจเป็นเพราะการอภิปรายยังไม่ลงในรายละเอียด และรสนิยมของการฟังอภิปรายอยากฟังเรื่องเซอร์ไพรส์ เรื่องใหม่ เรื่องทุจริตจับได้คาหนังคาเขา และมีลีลาดุเดือด แต่สมัยใหม่หลายเรื่องไม่มีความลึกลับ คนรู้หมดเพราะมีโซเชียลฯ และทุกคนเป็นสื่อได้หมด เรื่องที่เราพูดอาจรู้อยู่แล้ว แต่ต้องดูว่าลงลึกกว่าที่รู้หรือไม่ ส่วนลีลาของนักการเมืองรุ่นใหม่จะไปดุเดือดเลือดพล่านเหมือนเดิมไม่ได้ คนฟังอาจต้องปรับรสนิยมเล็กน้อย”
นายสุทินกล่าวว่า ส่วนที่มองว่าข้อมูลของฝ่ายค้านเป็นเรื่องเดิมก็ขอให้รอดู แต่คิดว่ารัฐบาลต่างหากที่ตอบไม่ได้ เช่น ที่ตอบตนมาแล้วเจอแย้งไปหนึ่งรอบก็ยังตอบผิด แต่ตนจะขึ้นพูดรอบสอง รอบสามก็คงดูไม่ดี จึงรอไว้ทีหลัง แม้แต่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยังตอบผิด ส่วนนายกรัฐมนตรียังเป็นนายกฯ คนเดิม เอาเฉพาะที่พูดได้ แต่คนฟังจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจอีกเรื่องหนึ่ง
เมื่อถามว่าจะมีอะไรที่เซอร์ไพรส์หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่เป็นเรื่องที่ประชาชนควรรู้เรื่องที่ไม่คิดว่าจะมีจะเกิด
เมื่อถามว่าการประท้วงเยอะจะมีผลต่อการสรุปอภิปรายวันสุดท้ายได้ตรงจุดหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า คนสรุปต้องใช้สมาธิต้องเรียบเรียงข้อมูลให้ดีมากกว่าเดิม ใช้ความพยายามและความสามารถมากขึ้นกว่าเดิม และเชื่อว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ทำได้อยู่แล้ว และเราจะช่วยกัน อยากขอความร่วมมือการประท้วงที่มากเกินความจำเป็น ไม่ได้เสียเฉพาะผู้ประท้วง แต่เสียภาพรวมทั้งสภา ประชาชนจะมองว่าเราไม่ได้พัฒนาขึ้นซึ่งน่าเป็นห่วง
นายสุทินกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะมีคนย้ายไปอยู่ด้วยว่า ขอเรียนว่าที่นายกฯ อภิปรายและบอกอย่างนั้น โดยระบุว่าเป็นคนข้างกายนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อันนี้แสดงว่านายกรัฐมนตรีเป็นการเมืองมากขึ้น ตั้งใจจะเบี่ยงประเด็น โดยมองได้ว่าถ้าพูดเรื่องนี้ข่าวก็จะไปในทางนั้นซึ่งน่าสนใจกว่า และอีกทางมีลูกน้องของนายกฯ จะไปหลอกเอากล้วยของนายกฯ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีอยู่เรื่อย ถ้าผู้ใหญ่ตามไม่ทันที่ลูกน้องไปบอกว่าคนนั้นคนนี้จะมาอยู่ด้วย แล้วขอมัดจำไปหนึ่งหวี หวีที่สองที่สามก็จะตามมา ความจริงแล้วไม่มี และตนได้ตรวจสอบดูแล้วคนที่อยู่ข้างกายนายจุลพันธ์ คือ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ถ้าจะเอาเขาอยู่ด้วย ต้องให้เขาเป็นหัวหน้าพรรคเขาถึงจะไป เพราะตอนนี้เขาเป็นเลขาธิการพรรคอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ และคนข้างกายคนอื่นก็เป็นภรรยาของเขาซึ่งก็เป็นไปไม่ได้ เพราะไปแล้วจะเดือดร้อน สามีเขาอยู่ที่นี่ ดังนั้น มองได้ว่านายกฯ ถูกลูกน้องหลอกเอากล้วยและเบี่ยงประเด็น