ประธานสภาผู้แทนราษฎร เผยไร้กังวลศึกซักฟอก ชี้ฝ่ายค้านพูดถึงสถาบันฯ ได้เท่าที่เขียนในญัตติ เชื่อไม่มีประท้วงหนักจนประชุมเดินไม่ได้ ห่วงลากยาวเกิน 4 วัน เหตุต้องให้ฝ่ายค้านพูดครบ 42 ชั่วโมง
วันนี้ (15 ก.พ.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการควบคุมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 16 ก.พ. ขณะที่ยังมีความกังวลเรื่องการอภิปรายประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่าเมื่อญัตติเราพิจารณาว่าชอบแล้วก็ให้อภิปรายไปตามญัตติ จะออกนอกญัตติไม่ได้ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ พูดได้เท่าที่เขียนไว้ ส่วนตัวไม่ได้กังวลและก็เชื่อว่าสมาชิกส่วนใหญ่ก็รู้อะไรควรอะไรไม่ควร ใครที่ออกนอกกติกา พฤติกรรมเหล่านั้นประชาชนกำลังจับตาดูอยู่ จะมีผลต่อเขาโดยตรง ประธานสภามีหน้าที่ควบคุมการประชุมในสภา แต่ข้างนอกประชาชนเป็นคนคุม พฤติกรรมใดที่ไม่ถูกต้องประชาชนจะลงโทษเอง
นายชวนกล่าวยืนยันด้วยว่า ญัตติสามารถอ่านได้แต่ถึงไม่อ่านก็เป็นญัตติแล้ว ทุกอย่างมีกติกาข้อบังคับอยู่ ทั้งนี้คนมองว่าการประท้วงมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดาแต่ไม่ใช่เรื่องที่น่าวิตก และคิดว่าคงไม่มีการประท้วงกันอย่างรุนแรงจนไม่สามารถเดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจได้
ส่วนที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เตรียมขออนุญาตนำแหนบถอนผมเข้าไปประชุมสภาด้วย เพื่อนำไปถอนหงอกผู้นำฝ่ายค้านหากพูดถึงสถาบันฯ นั้น นายชวนกล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่กฎกติกา ไม่ใช่ใครจะทำอะไรตามอำเภอใจได้ และหากผู้อภิปรายพูดในกรอบก็ถือว่าไม่มีปัญหา
เมื่อถามย้ำว่าสามารถเอาแหนบถอนผมเข้าสู่ที่ประชุมสภาได้หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า หากนำไปเป็นอาวุธก็ถือว่าไม่ได้ ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าแหนบถอนผมถือเป็นอาวุธหรือไม่ นายชวนตอบว่า ไม่ทราบ
นายชวนยังกล่าวถึงเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ตราบใดที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ครบ 42 ชั่วโมง การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็อาจขยายไปมากกว่า 4 วันได้ และหากอภิปรายเสร็จสิ้นในวันใดก็จะมีการลงมติในวันถัดไป ตนถึงบอกว่าอย่าไปตั้งเป้าว่าจะมีการลงมติในวันเสาร์ที่ 20 ก.พ.
นายชวนยังกล่าวถึงกรณีที่อาจจะมีการมาชุมนุมหน้ารัฐสภาในวันลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เสี่ยงจะซ้ำรอยเหตุการณ์ปะทะที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหรือไม่ว่า คงไม่ เพราะภายนอกมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ เราไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเกี่ยวอะไรได้ แต่มาตรการภายในก็ไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ และการอภิปรายครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก เราเคยมีประสบการณ์การอภิปรายมาแล้ว
วันนี้ (15 ก.พ.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการควบคุมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 16 ก.พ. ขณะที่ยังมีความกังวลเรื่องการอภิปรายประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่าเมื่อญัตติเราพิจารณาว่าชอบแล้วก็ให้อภิปรายไปตามญัตติ จะออกนอกญัตติไม่ได้ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ พูดได้เท่าที่เขียนไว้ ส่วนตัวไม่ได้กังวลและก็เชื่อว่าสมาชิกส่วนใหญ่ก็รู้อะไรควรอะไรไม่ควร ใครที่ออกนอกกติกา พฤติกรรมเหล่านั้นประชาชนกำลังจับตาดูอยู่ จะมีผลต่อเขาโดยตรง ประธานสภามีหน้าที่ควบคุมการประชุมในสภา แต่ข้างนอกประชาชนเป็นคนคุม พฤติกรรมใดที่ไม่ถูกต้องประชาชนจะลงโทษเอง
นายชวนกล่าวยืนยันด้วยว่า ญัตติสามารถอ่านได้แต่ถึงไม่อ่านก็เป็นญัตติแล้ว ทุกอย่างมีกติกาข้อบังคับอยู่ ทั้งนี้คนมองว่าการประท้วงมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดาแต่ไม่ใช่เรื่องที่น่าวิตก และคิดว่าคงไม่มีการประท้วงกันอย่างรุนแรงจนไม่สามารถเดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจได้
ส่วนที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เตรียมขออนุญาตนำแหนบถอนผมเข้าไปประชุมสภาด้วย เพื่อนำไปถอนหงอกผู้นำฝ่ายค้านหากพูดถึงสถาบันฯ นั้น นายชวนกล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่กฎกติกา ไม่ใช่ใครจะทำอะไรตามอำเภอใจได้ และหากผู้อภิปรายพูดในกรอบก็ถือว่าไม่มีปัญหา
เมื่อถามย้ำว่าสามารถเอาแหนบถอนผมเข้าสู่ที่ประชุมสภาได้หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า หากนำไปเป็นอาวุธก็ถือว่าไม่ได้ ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าแหนบถอนผมถือเป็นอาวุธหรือไม่ นายชวนตอบว่า ไม่ทราบ
นายชวนยังกล่าวถึงเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ตราบใดที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ครบ 42 ชั่วโมง การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็อาจขยายไปมากกว่า 4 วันได้ และหากอภิปรายเสร็จสิ้นในวันใดก็จะมีการลงมติในวันถัดไป ตนถึงบอกว่าอย่าไปตั้งเป้าว่าจะมีการลงมติในวันเสาร์ที่ 20 ก.พ.
นายชวนยังกล่าวถึงกรณีที่อาจจะมีการมาชุมนุมหน้ารัฐสภาในวันลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เสี่ยงจะซ้ำรอยเหตุการณ์ปะทะที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหรือไม่ว่า คงไม่ เพราะภายนอกมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ เราไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเกี่ยวอะไรได้ แต่มาตรการภายในก็ไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ และการอภิปรายครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก เราเคยมีประสบการณ์การอภิปรายมาแล้ว