xs
xsm
sm
md
lg

พท.ให้จับตา ส.ว.โหวตร่าง พ.ร.บ.กสทช. หลังปลดล็อก พ.อ.เข้าสรรหา จ่อดันคนสนิทนั่งทันที

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนุดิษฐ์ นาครทรรพ (แฟ้มภาพ)
“อนุดิษฐ์” แนะจับตา ส.ว.โหวตร่าง พ.ร.บ.กสทช. 15 ก.พ. หลังชั้น กมธ.ปลดล็อดให้ชั้น พ.อ.เข้ารับการสรรหาได้ พร้อมปูดดันคนสนิทผู้นำนั่ง กก.ใหม่ยกชุดทันทีที่ร่างกฎหมายผ่าน 15 วัน

วันนี้ (14 ก.พ.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ได้รับข้อมูลความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการสรรหา กสทช.ที่อยู่ในการพิจารณาขั้นสุดท้ายของ ส.ว. มีสัญญาณถูกแทรกแซงการสรรหา เนื่องจากผู้นำรัฐบาลพยายามผลักดันคนสนิทของตัวเองเข้าไปในคณะกรรมการ กสทช.ทั้งที่คุณสมบัติไม่เหมาะสม ไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหา

น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวอีกว่า ล่าสุดเพื่อนสนิทผู้นำรัฐบาลที่เคยเป็นถึงอดีตรองนายกฯ ออกโรงรวบรวมคะแนนเสียงจาก ส.ว. เพื่อกดปุ่มสั่งให้ ส.ว.ผลักดันร่าง พ.ร.บ.กสทช.ที่มีเนื้อหาระบุว่าถ้า พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ต้องสรรหากรรมการ กสทช.ชุดใหม่มาทำหน้าที่ทันที หากเป็นเช่นนั้นจริงจะทำให้คณะกรรมการ กสทช.ที่กำลังอยู่ระหว่างการสรรหาในขณะนี้ได้ทำหน้าที่เพียงไม่นานเท่านั้น เพื่อให้คนของตัวเองได้เข้าสู่กระบวนการสรรหารอบใหม่ที่จะเกิดขึ้นหลังกฎหมายบังคับใช้

“หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เนื่องจากการเข้าไปแทรกแซงการทำงานของ ส.ว.เพียงเพื่อต้องการผลักดันคนของตัวเอง ถือเป็นการไม่ให้เกียรติ ส.ว.อย่างสิ้นเชิง และเป็นสิ่งที่ผู้นำรัฐบาลไม่ควรกระทำ ดังนั้นจึงต้องติดตามการประชุมของ ส.ว.วันที่ 15 ก.พ.นี้ว่าสิ่งที่ได้ข้อมูลมานั้นจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) ที่ประชุมวุฒิสภาจะมีวาระสำคัญ คือ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ซึ่งเป็นฉบับที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นประธาน กมธ.

โดยร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีทั้งสิ้น 11 มาตรา แต่มีสาระสำคัญที่น่าสนใจ อยู่ที่มาตรา 5 ว่าด้วยการให้ผู้มีสิทธิสมัครรับการสรรหาเพื่อเป็นกรรมการ กสทช.มีคุณลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ทางคณะ กมธ.แก้ไข (3) จากเดิมที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรมานั้น กำหนดไว้ว่า เป็นหรือเคยเป็นนายทหารหรือนายตำรวจที่มียศตั้งแต่พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี หรือพลตำรวจตรี แก้ไขเป็นข้อความว่า “เป็นหรือเคยเป็นนายทหารหรือนายตำรวจที่มียศตั้งแต่พันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก หรือพันตำรวจเอก อัตราเงินเดือนพันเอกพิเศษ นาวาเอกพิเศษ นาวาอากาศแอกพิเศษ หรือพันตำรวจเอกพิเศษขึ้นไป”

นอกจากนี้ ยังมีมาตรา 10 ว่าด้วยวาระเริ่มแรกของการบังคับใช้กฎหมายฉบับดังกล่าว จากเดิมที่ผ่านการพิจารณาของสภาฯ กำหนดไว้ให้มีการสรรหากรรมการ กสทช.ภายใน 15 วันนับตั้งแต่ที่มีการประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว

ต่อมาทาง กมธ.ฝั่งวุฒิสภา แก้ไขใหม่ กำหนดดังนี้ (1) กรรมการ กสทช.ชุดปัจจุบัน ให้อยู่ในตำแหน่งเพื่อปฎิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีคณะกรรมการ กสทช. ตามร่างกฎหมายฉบับนี้ และ (2) ในกรณีที่ได้ดำรงตำแหน่งยังไม่ครบวาระตาม พ.ร.บ.กสทช. ในวันก่อนวันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ ให้มีวาระดำรงตำแหน่ง 3 ปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง แต่ถ้าในวันที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ใช้บังคับ ได้ดำรงตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาเกิน 3 ปีให้ถือว่าได้ดำรงตำแหน่งครบวาระแล้ว

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจาก ส.ว.เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการแก้ไขชั้นยศของผู้ที่จะเป็นกรรมการ กสทช. จากของเดิมที่รัฐบาลเสนอมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่าทำไมทาง กมธ. ถึงกล้าแก้ไขในสิ่งที่รัฐบาลเสนอมา เพราะปกติทางส.ว.ไม่อยากมีปัญหากับรัฐบาล หรือเป็นไปได้หรือไม่ว่าได้พูดคุยเรื่องนี้กับทางรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ประชุมวุฒิสภาได้ตั้งคณะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ กสทช. ตามที่คณะกรรมการสรรหา กสทช.นำเสนอรายชื่อบุคคลที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 14 คน ซึ่งในการประชุมวุฒิสภาขณะนั้น มี ส.ว.อภิปรายไม่เห็นด้วยที่วิปวุฒิสภากำหนดระยะเวลาการทำงานของคณะ กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ เพียง 15 วัน และได้เสนอให้ กมธ.ทำงาน 25 วันแทน แต่สุดท้ายที่ประชุมได้ลงมติด้วยเสียงข้างมาก 126 ต่อ 68 เสียง ให้ยืนตามที่วิปวุฒิสภาเสนอมา กล่าวคือ ให้คณะ กมธ.พิจารณาตรวจสอบประวัติฯ 15 วัน


กำลังโหลดความคิดเห็น