องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จับมือ สตง.ลงนามข้อตกลงป้องกันทุจริต โครงการสร้างที่ทำการ สตง.แห่งใหม่ วงเงิน 2,560 ล้านบาท
วันนี้ (10 ก.พ.) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โดย นายวิเชียร พงศธร ประธาน, นายวิชัย อัศรัสกร รองประธาน และ นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เพื่อป้องกันและปราบปรามปัญหาการทุจริต ในโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ กับ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (ผู้ประกอบการ) โดยมี รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค เป็นผู้นำทีมผู้สังเกตการณ์
นายวิเชียร กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และ สตง. เป็นหน่วยงานหลักที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนเรื่องการต่อต้านการทุจริต โดยตระหนักถึงการป้องกันและปรามปรามการทุจริต และเสริมสร้างความร่วมมือภายในองค์กรต่างๆ ในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม และเนื่องจาก สตง. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม จึงได้เสนอ “โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ” เข้าร่วมโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) เพื่อเป็นแบบอย่างในการแสดงเจตนารมณ์ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งประสานความร่วมมือในการตรวจสอบการดำเนินงาน ป้องกันการทุจริต และการร่วมเสริมสร้างทัศนคติค่านิยมในความซื่อสัตย์ สุจริต อันจะส่งผลต่อการลดปัญหาการทุจริตของประเทศให้น้อยลง และเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนต่อไป
ด้าน นายประจักษ์ เปิดเผยว่า สตง. ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคาร ที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ 3 งาน บริเวณ ถ.กำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยได้เสนอขออนุมัติงบประมาณรายการค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน 2,560 ล้านบาท และได้รับการอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 กุ.พ. 63 ต่อมาได้ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้างตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และได้ผู้ชนะการประกวดราคา ได้แก่ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด) ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด ด้วยวงเงิน 2,136 ล้านบาท จากนั้นได้ดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีคัดเลือกผู้ให้บริการควบคุมงานจ้างก่อสร้าง โดยกิจการร่วมค้า PKW (บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด และ บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ จากัด) เป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนองานจ้างควบคุมงาน ด้วยวงเงิน 74.65 ล้านบาท
“ในการดำเนินโครงการดังกล่าว สตง. ได้ยึดหลักความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ประหยัดและความคุ้มค่า ซึ่งสอดคล้องกับหลักการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 กล่าวคือ สตง. ได้ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างโดยมีการเปิดเผยข้อมูลในทุกขั้นตอน มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน ตลอดจนกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการยื่นข้อเสนอ เป็นต้น จนกระทั่งได้ผู้ชนะการประกวดราคา ด้วยวงเงิน 2,136 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับราคากลางงานก่อสร้าง จำนวน 2,522.15 ล้านบาท จึงคิดเป็นจำนวนเงินที่ต่ำกว่าราคากลางทั้งสิ้น 386.15 ล้านบาท”