“คณะแผ่นดินสยาม” บุกสภาฯ จี้ “ชวน” คุมอภิปรายซักฟอก อย่าก้าวล่วงสถาบันฯ ลั่นเกาะติดตลอด 5 วัน หากเนื้อหาล่อแหลม เตรียมลุกสู้ปกป้อง
วันนี้ (8 ก.พ.64) เมื่อเวลา 11.30 น. คณะพลังแผ่นดินสยาม นำโดย น.ต.ถนิต พรหมสถิต ประธานเครือข่ายพสกนิกรไทย, นายสาธุ อนุโมทามิ ประธานเครือข่ายคนไทยรักชาติ และนายสุเมธ ตระกูลวุ่นหนู หัวหน้ากลุ่มนักรบองค์ดำ เข้ายื่นหนังสือต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ควบคุมการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ที่กำหนดการประชุมเบื้องต้นระหว่างวันที่ 16-20 ก.พ.64 ไม่ให้มีการอภิปรายก้าวล่วงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ โดยมี นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ และนายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาฯ รับยื่นหนังสือ
นายสาธุ ระบุว่า ทางกลุ่มไม่สบายใจที่ฝ่ายค้านระบุในข้อกล่าวหาในญัตติไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในลักษณะว่ามีพฤติกรรมทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันฯกับประชาชน นำสถาบันฯเป็นข้ออ้างเพื่อแบ่งแยกประชาชน และแอบอ้างสถาบันฯมาเป็นเกราะปิดบังความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงกังวลว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเนื้อหา ท่าที ลีลาและใช้วาทกรรมที่ไม่เหมาะสม หรือนำข้อมูลเท็จเข้ามาอภิปราย ทำให้เกิดความเข้าใจผิด คล้อยตามและหลงเชื่อในเนื้อหาที่ปั้นแต่งขึ้นมา และอาจจะมีกลุ่มไม่หวังดีต่อสถาบันฯที่จะใช้ประโยชน์ทางการเมือง และยกระดับตามยุทธวิธีแนวร่วมคอมมิวนิสต์ อีกทั้งทราบว่าบางพรรคการเมืองเตรียมเสนอแก้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความมาตรา 112 อันเกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และผลักดันจากมวลชน เรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันฯอย่างต่อเนื่อง เกรงว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะยกระดับเป็นยุทธวิธีสงครามในระยะเวลาอีกไม่นาน จึงต้องอาศัยอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎร ควบคุมการอภิปรายครั้งนี้
“คณะพลังแผ่นดินสยามจะติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างใกล้ชิด หากก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ คณะพลังแผ่นดินสยามจะลุกขึ้นมาทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่หวังดีเป็นภัยคุกคามอีกต่อไป” นายสาธุ ระบุ
ด้าน นายสมบูรณ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะรับเรื่องดังกล่าวนำกราบเรียนประธานสภาฯต่อไป ฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารเพื่อให้ประเทศสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการตรวจสอบถ่วงดุลนี้ ถือเป็นความความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย และขอให้มั่นใจการทำหน้าที่ประธานการประชุมของ นายชวน ผู้ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานด้านการเมืองมากกว่า 50 ปี ว่าจะทำหน้าที่ควบคุมการอภิปรายโดยยึดหลักรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 รวมทั้งให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างแน่นอน.