"บิ๊กตู่" ย้ำแผนเดิมฉีดวัคซีน เผย แอสตร้าเซนเนก้าได้อย.แล้ว ไม่นิ่งนอนใจปัญหาผู้ผลิตส่งไม่ทัน

นายกฯ ย้ำแผนเดิมฉีดวัคซีนคนไทย รบ.วางไว้ มิ.ย.64 เผย แอสตร้าเซนเนก้า ได้ทะเบียน อย.แล้ว ขออย่ากังวลรบ.ไม่นิ่งนอนใจจัดหาวัคซีน หลังหลายประเทศต้องรื้อแผนฉีดไม่ตรงตามเป้า เหตุผู้ผลิตส่งไม่ทัน ยันได้ฉีดทุกคน เน้นความปลอดภัย

วันนี้ (5ก.พ.) เมื่อเวลา 16.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวในรายการ PM PODCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง ผ่านเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ว่า วันนี้ได้มีการพูดคุยกันถึงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยมีการสื่อสารทุกช่องทาง ซึ่งตนเกรงว่าจะเกิดการสับสนกันไปหมด วันนี้ทั้งตน รัฐบาล ศบค. และหน่วยงานสาธารณสุขชี้แจงเกือบทุกวัน ตนขอย้ำว่าเดิมประเทศไทยได้วางแผนการฉีดวัคซีนวันในเดือนมิ.ย.64 เป็นวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทย จากการที่ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจาก บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งส่วนนี้ยังเป็นไปตามแผน ที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามพูดคุยที่จะได้วัคซีนบางส่วนมาให้เร็วขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะได้มาก่อนประมาณ 50,000 โดส เพื่อฉีดให้บุคคลากรสาธารณสุข ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่เสี่ยงเป็นอันดับแรก เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน แต่ถ้าได้มากกว่านี้จะขยายไปถึงส่วนอื่นๆด้วย และวันนี้ได้มีการเจรจาหลายบริษัทเช่นกัน

นายกฯ กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาทราบดีว่ามีปัญหาเรื่องกำหนดการส่งมอบวัคซีนของหลายประเทศทั่วโลก หลังจากที่การผลิตวัคซีนของผู้ผลิตไม่เป็นไปตามแผน คือไม่ใช่บริษัทใหญ่จะเป็นผู้ผลิตเอง เขาต้องตั้งเครือข่ายตามประเทศต่างๆ บางบริษัทออกมาชี้แจงว่าจำนวนวัคซีนที่จะส่งมอบให้ผู้สั่งจองจะได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนที่วางแผนไว้ ทำให้หลายประเทศต้องรื้อแผนการฉีดวัคซีน และหลายประเทศอาจไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ถึงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ เรื่องนี้ขอย้ำว่ารัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาเพิ่มเติม จะทำอย่างไรในทุกวิถีทางเพื่อให้ประเทศไทยได้รับวัคซีนตามแผนในส่วนที่เราจองไปแล้ว และจัดหาจากประเทศอื่นด้วยที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทย รวมถึงอย.ต้นทางด้วย

นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับคุณภาพวัคซีนหลายคนมีความกังวล ตนย้ำว่าให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญสุด เราจะเตรียมวัคซีนให้เพียงพอสำหรับคนไทยทุกคน ส่วนเรื่องการฉีดสำคัญสุดอยู่ที่ความสมัครใจ ล่าสุดมีรายงานจากต่างประเทศ มีการฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 100 ล้านโดส มีผู้ได้รับวัคซีนแล้วเกือบ 50 ล้านคน จากการติดตามผลการฉีดวัคซีนเราพบว่าสถิติของผู้ติดเชื้อรายวันมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนผลข้างเคียงเมื่อฉีดวัคซีนพบว่าอาการส่วนใหญ่ไม่รุนแรง เช่น อาจมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และจะหายเองได้ภายใน 1-2 วัน ถ้ามีผลข้างเคียงรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตนั้นพบสถิติน้อยมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคนด้วย เราต้องพิจารณาให้ดี ตรวจสอบคัดกรอง อันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีอยากให้พี่น้องประชาชนคลายความกังวลในเรื่องนี้ นอกจากนี้ตนยังสั่งให้จัดทำแผนการแจกจ่ายวัคซีนไปทุกกลุ่มประชาชน ตามความเสี่ยง เตรียมแผนการขนส่งที่จำเป็นเอาไว้ด้วยในพื้นที่ห่างไกล และรัฐบาลไม่ได้กีดกันเอกชนในการนำเข้าวัคซีน เพราะอย.ยินดีให้ทุกบริษัทมาขอขึ้นทะเบียน ปัจจุบันมีผู้มาขอขึ้นทะเบียนจำนวน 3 ราย และได้ทะเบียนแล้ว 1 ราย คือ บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย เพราะฉะนั้นประเทศใดก็ตามที่จะนำวัคซีนเข้ามาในประเทศต้องขออนุญาต อย.ก่อน หลายคนที่บอกจะไปซื้อโน่นซื้อนี่ ถ้าขึ้นทะเบียนไม่ได้ยังไม่ปลอดภัย ก็ยังดำเนินการไม่ได้ทั้งสิ้น