ส.ส.ภท.แจงศาลปกครองสนใจ 3 ประเด็น ปม กทม.กำหนดค่าโดยสารบีทีเอสสายสีเขียว 104 บาท ยันชะลอขึ้นราคาให้ ครม.พิจารณาสัญญาก่อนทำได้ เหตุหากคำสั่งไม่ชอบเยียวยา ปชช.ลำบาก เผยศาลเรียกเอกสารสัญญาจ้างเดินรถ-ตารางเก็บค่าโดยสาร ให้ กทม.ส่ง 8 ก.พ.
วันนี้ (4 ก.พ.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวหลังการไต่สวนนานกว่า 2 ชั่วโมงเศษ ในคดีขอให้ศาลสั่งเพิกถอนประกาศกรุงเทพมหานครที่กำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในราคา 104 บาทตลอดสาย ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.พ.นี้ว่า ศาลสนใจซักถามใน 3 ประเด็น คือ 1. การขึ้นราคาไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ซึ่งได้ชี้แจงว่าร่างสัญญาที่ กทม.ทำกับบีทีเอสยังไม่ผ่าน ครม.จึงไม่น่าจะกำหนดราคาใหม่ได้ และการที่ กทม.จะขึ้นค่าโดยสารจะต้องทำในลักษณะบูรณาการร่วมกันกับกระทรวงคมนาคม โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง 2. หาก กทม.ประกาศขึ้นราคาแล้วคำสั่งไม่ชอบจะมีผลอย่างไร สามารถเยียวยาประชาชนได้หรือไม่ ตนก็ชี้แจงว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิจะใช้บริการบีทีเอส หากต่อมาพบว่าการปรับขึ้นราคาดังกล่าวไม่ชอบก็ยากที่จะเยียวยา เพราะไม่มีใบเสร็จเวลาใช้บริการ และถึงมีคงไม่มีใครเก็บแล้วมาขอส่วนต่าง 40 บาทคืนได้ 3. ถ้าศาลสั่งทุเลา ระงับการบังคับใช้ประกาศขึ้นราคาของ กทม.ไว้ก่อนจะมีผลต่อการบริการสาธารณะของ กทม.หรือไม่ ก็ได้ชี้แจงศาลว่า กทม.เป็น อปท.แบบพิเศษ มีการจัดเก็บรายได้เอง มีเงินคงคลังที่เข้มแข็ง ที่ผ่านมา กทม.แบกรับภาระขนคนมาในพื้นที่ไข่แดง 3 ปีเศษ ฉะนั้น ถ้าวันนี้ กทม.จะชะลอการปรับขึ้นราคาออกไปโดยเสนอ ครม.พิจารณาก่อนก็เชื่อว่าสามารถทำได้
“กทม.ชี้แจงต่อศาลว่า การขึ้นราคาเป็นอำนาจที่ กทม.ทำได้ และอ้างว่าสิ่งต่างๆ ที่ทำก็รับมาจาก ครม. แต่เรื่องการกำหนดราคาเป็นหน้าที่ของเขา ซึ่งเราก็เห็นว่าหากคุณรับมาจาก ครม.ทั้งหมดแล้วก็ต้องรับมติ ครม.ด้วย ไม่ใช่รับแค่สิ่งที่ตัวเองได้ประโยชน์ แต่สิ่งใดที่ตัวเองเสียประโยชน์กลับบอกว่าเป็นไปตามมติ ครม. อย่างนี้ผมเห็นว่าไม่ถูก และเมื่อศาลถามว่าหากคำสั่งไม่ชอบจะเยียวยาประชาชนอย่างไร ก็ไม่ตอบ มีแต่บอกว่ารัฐจะเยียวยา กทม.อย่างไร เป็นการตอบไม่ตรงคำถาม รวมถึงบอกว่าตัวเองมีภาระหน้าที่เยอะไม่สามารถดูแลส่วนนี้ได้ ซึ่งเราก็เห็นว่าไม่เป็นจริงอย่างที่ กทม.แถลง โดยศาลได้นัดให้ กทม.ส่งเอกสารเพิ่มเติมทั้งเอกสารสัญญาการจ้างเดินรถ ตารางการเก็บค่าโดยสาร ให้ส่งภายในวันที่ 8 ก.พ. และแจ้งว่ากรณีนี้ศาลให้ความสนใจเพราะเกี่ยวข้องกับประชาชนจำนวนมาก จึงจะพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนที่ประกาศของ กทม.จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.พ.นี้”
