xs
xsm
sm
md
lg

“แรมโบ้” ซัดพรรคเพื่อไทย อย่าดีแต่จ้อรายวันจนปากเหม็น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แรมโบ้” ซัด “พรรคเพื่อไทย” อย่าดีแต่จ้อรายวันจนปากเหม็น หากไม่คิดช่วยทำอะไรขอให้หยุดพูดหรือตำหนินายกฯ และรัฐบาล พร้อมเตือนประชาชนจะเบื่อหน่ายหากไม่ทำประโยชน์เพื่อชาติเลย

วันนี้ (1 ก.พ.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย แถลงว่ารัฐบาลบริหารด้านเศษฐกิจล้มเหลว ทำให้ราคา ‘พริก-ลอตเตอรี่’ พุ่งเกินเหตุ โดยนายสุภรณ์ระบุว่า ต้องเข้าใจว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมานายกฯ ได้ทำงานอย่างเต็มที่ในแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างระมัดระวังที่สุด โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการระบาดเชื้อโควิดได้ตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหลัง COVID-19 และหามาตรการต่างๆ นำมาช่วยเหลือประชาชนในการบรรเทาความเดือดร้อน แม้กระทั่งการควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ให้มีราคาแพง เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนเช่นกัน

ขณะเดียวกัน ได้ประชุมหารือร่วมกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องให้เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจของประเทศที่อาจจะยิ่งหนักหนาสาหัสในระยะยาว อีกทั้งยังเริ่มประกาศคลายมาตรการต่างๆ ให้พี่น้องประชาชนพอที่จะสามารถใช้ชีวิตประจำวันทำมาหากินกันได้ เพื่อที่จะไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจรายได้และปากท้องพี่น้องประชาชนมากนัก

ส่วนปัญหาราคาพริกแพงนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าเกิดจากมีความต้องการใช้ภายในประเทศเพิ่ม และผลของสภาพภูมิอากาศทำให้กระทบต่อการผลิตในแต่ละปีของไทย ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม รวมทั้งสถานการณ์โควิดยังส่งผลกระทบต่อการขนส่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ดังนั้น ขอให้พรรคเพื่อไทยเข้าใจสถานการณ์ด้วย

สำหรับปัญหาลอตเตอรี่มีราคาแพง คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลมีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยที่ผ่านมาได้หาแนวทางแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคา มีมติเปิดให้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ซื้อจองลอตเตอรี่เพิ่มเติมอีก 1 แสนคน เพื่อช่วยคนตกงาน ให้มีสิทธิซื้อลอตเตอรี่กับสำนักงานฯ ได้โดยตรงในราคาใบละ 70.40 บาท นำไปขายใบละ 80 บาท ทำให้ผู้ค้าสลากตัวจริงเข้ามาอยู่ในระบบไม่ต้องไปพึ่งพาการซื้อสลากซึ่งถูกเก็งกำไรจากพ่อค้าคนกลาง

“นายยุทธพงศ์ และนายจิรพงษ์ ก็น่าจะรู้ว่าปัญหาเศรษฐกิจเกิดขึ้นทั่วโลกจากการระบาดเชื้อโควิด ซึ่งนายกฯ และรัฐบาลก็กำลังพยายามแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยไม่คิดจะช่วยอะไรก็ขอให้หยุดพูดหรือตำหนินายกฯ และรัฐบาล เพราะไม่ได้ทำให้อะไรให้ดีขึ้น การพูดจ้อรายวันจนปากเหม็นยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยตกต่ำลงจนในที่สุดจะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งในคราวหน้าอย่างย่อยยับ

นอกจากนี้ ตนเองยังไม่เห็นว่ารองหัวหน้าพรรค หรือโฆษกพรรค ได้พูดอะไรหรือทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้แก่ประชาชนบ้าง มีแต่ออกมาแถลงข่าวตำหนิคนอื่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ทุกวันโดยไม่ย้อนดูตัวเอง หากทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ขอบอกว่าทุกวันนี้ประชาชนเบื่อหน่ายพรรคเพื่อไทยมาก เพราะคนในพรรควันๆ ดีแต่ออกมาพูดทำลายคนอื่น หัวหน้าพรรค ผู้ใหญ่ในพรรคก็ไม่เคยออกมาเตือนหรือห้ามปรามพวกปากจ้อรายวันเลย

“ตัวนายยุทธพงศ์เองก็ยังแก้ปัญหาตัวเองในพรรคไม่ได้ มีข่าวทะเลาะกับ ส.ส.คนนั้นคนนี้ในพรรค ถึงขั้นท้าชกท้าต่อย มีข่าวว่าไม่ได้ตำแหน่งในสภาสมดังใจตัวเองก็ออกมาอาละวาด ถามหน่อยว่าในพรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์เข้าได้กี่คน ไม่มีใครอยากคบ มีแต่คนเบื่อหน่ายเพราะนิสัยส่วนตัวเอาแต่ใจ มี ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยส่งข่าวมาว่าคนนี้คบยากเพราะนิสัยส่วนตัวไม่ค่อยเอาใคร มีแต่ความคิดที่ไม่สร้างสรรค์ คอยแต่ซ้ำเติมประเทศชาติประชาชนเช่นนี้ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปชาวมหาสารคามอาจจะไม่สนับสนุนคนประเภทนี้ให้มาเป็นผู้แทนประชาชนอีกต่อไปเป็นแน่”


กำลังโหลดความคิดเห็น