“หมอทศ” ชี้พิรุธ ส.ว.ดึงสรรหา กสทช. วิจารณ์หึ่ง “บิ๊ก สนง.วุฒิสภา” เตะถ่วงชง 14 แคนดิเดตให้ ส.ว.เลือก เปิดทาง กม.ใหม่ผ่านก่อนปิดสมัยประชุมนี้ หวังคว่ำกระบวนการสรรหาที่ไร้ชื่อ “ตัวเต็ง”
จากกรณีที่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคไทยรักไทย ระบุว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่คณะกรรมการสรรหาได้ประกาศผลผู้ผ่านคัดเลือก 14 คน จาก 7 ด้าน ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 64 ว่า อาจมีการดึงการพิจารณาในชั้นวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อรอให้การพิจารณาร่างกฎหมาย กสทช.ฉบับใหม่แล้วเสร็จเพื่อล้มกระบวนการสรรหานั้น
วันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบกระบวนการสรรหา กสทช. มาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 (พ.ร.บ.กสทช.) ระบุว่า เมื่อได้รายชื่อผู้ควรได้รับเลือกเป็น กสทช.จากการสรรหาตามแล้วให้ เลขาธิการวุฒิสภา จัดทํารายชื่อผู้ซึ่งได้รับการคัดเลือกนั้น และเสนอบัญชีรายชื่อ พร้อมประวัติและ เอกสารหลักฐานของบุคคลดังกล่าว ซึ่งต้องระบุให้ชัดเจนหรือมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมต่อประธานวุฒิสภาภายใน 30 วันนับแต่วันที่คัดเลือกเสร็จ (วันที่ 21 ม.ค. 64) เพื่อเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาและมีมติเลือกต่อไป
โดยกฎหมายฉบับเดียวกันได้กำหนดให้ เลขาธิการวุฒิสภา เป็นเลขานุการคณะกรรมการสรรหา กสทช.
ขณะที่มาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.กสทช.บัญญัติว่า ให้วุฒิสภามีมติเลือกบุคคลจากบัญชีรายชื่อที่เลขาธิการวุฒิสภาเสนอให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับบัญชีรายชื่อ เพื่อให้ได้กรรมการตามมาตรา 6 โดยแต่ละด้าน ให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดเรียงตามลำดับเป็นผู้ได้รับการคัดเลือก ซึ่งจะต้องกระทําโดยวิธีลงคะแนนลับ แล้วแจ้งให้ผู้ได้รับเลือกทราบ และประธานวุฒิสภาจัดให้ผู้ได้รับการเลือกมาประชุมร่วมกันเพื่อคัดเลือกกันเองเป็นประธาน กสทช.แล้วนำรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นประธานกรรมการและได้รับการเลือกเป็นกรรมการ แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบภายใน 20 วันนับแต่วันที่วุฒิสภามีมติเลือก เพื่อนายกรัฐมนตรีดําเนินการนําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากการเปิดเผยว่ามีการร้องเรียนมายัง นพ.ทศพรแล้ว ยังมีกระแสว่าผู้มีอำนาจซึ่งไม่พอใจรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาเป็น กสทช.ทั้ง 14 ราย ซึ่งตัวเต็งหลายรายไม่ได้รับเลือก ได้สั่งการผ่านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ให้ชะลอการนำรายชื่อเสนอต่อประธานวุฒิสภา โดยมีแนวโน้มว่าจะดำเนินการเสนอรายชื่อต่อประธานวุฒิสภาก่อนครบกำหนด 30 วัน เพื่อให้กระบวนการสรรหา กสทช.ล่าช้าออกไปให้มากที่สุด เนื่องจากหากมีการเสนอรายชื่อถึฃผระธานวุฒิสภา กระบวนการตามมาตรา 17 ก็จะเริ่มนับหนึ่งทันที โดยความพยายามดังกล่าวเป็นการประวิงเวลาเพื่อรอให้ร่าง พ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่ ที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของ คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม (กมธ.ไอซีที) วุฒิสภา ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นประธาน แล้วเสร็จก่อนที่จะมีการเลือก กสทช.ให้เหลือ 7 คน เพื่อต้องการล้มกระบวนการสรรหา กสทช.ครั้งนี้
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อช่วงกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา กมธ.ไอซีทีในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กสทช. ได้ขอต่อเวลาพิจารณาออกไปอีก 30 วัน แต่ก็ได้มีการเร่งรัดการพิจารณาเพื่อให้นำกลับเข้าสู่การลงมติวาระ 2 และ 3 ในที่ประชุมวุฒิสภาโดยเร็วที่สุดภายในสมัยประขุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ประจำปี 2563 ที่จะปิดสมัยในวันที่ 1 มี.ค. 64 นี้ โดยคาดว่าจะตีตกการแก้ไขของ กมธ.รวมทั้งการแปรญัตติของ ส.ว.ทั้งหมด เพื่อยึดร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร และตัดกระบวนการที่หากมีการแก้ไขต้องส่งคืนให้ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง เพื่อให้กฎหมายใหม่ประกาศใช้โดยเร็วที่สุด แซงกระบวนการสรรหา กสทช.ที่ยังไม่แล้วเสร็จ และอาจนำเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาไม่ทันสมัยประชุมนี้ เนื่องจากรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาเป็น กสทช.14 รายไม่มีชื่อตัวเต็งที่ใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจ เพื่อให้มีการสรรหาอีกครั้งตามกฎหมายใหม่