รองโฆษก ทบ.เผยกองทัพบกหวังชายไทยสมัครเป็น “พลทหาร” กรณีพิเศษร่วม 1 หมื่นนาย ปูทางสู่ระบบ “ทหารอาสา” คงมีเกณฑ์ทหาร ทภ.1 - รับลงโทษพลทหารจริงหลังพบเสพยาในค่ายทหารเสือราชินี พร้อมกักบริเวณ ลงทัณฑ์ตามวินัยทหาร รอผลสอบวินัยครูฝึก
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกเดินหน้าพัฒนาการตรวจเลือกทหารกองประจำการมุ่งสู่ระบบทหารกองประจำการอาสา ทดแทนการเรียกเกณฑ์ให้เป็นรูปธรรมในอนาคต ซึ่งเป็นไปตามนโยบายกระทรวงกลาโหมด้านการปฏิรูปของกองทัพและเพิ่มความหลากหลาย รวมถึงสร้างแรงจูงใจให้ชายไทยสมัครเป็นทหาร ล่าสุดในการตรวจเลือกทหารฯ ปี 2564 กองทัพบกได้ริเริ่มการรับสมัครทหารกองเกินเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์ เป็นการรับสมัครเฉพาะชายไทยอายุ 18-20 ปี ซึ่งเกิดปี 2544-2546 ผู้ที่ยังไม่ถูกเรียกเข้าเป็นทหารกองประจำการ และทหารกองเกินที่มีอายุ 22-29 ปี ซึ่งเกิดปี 2535-2542 ที่เคยเข้ารับการตรวจเลือกทหารแล้ว แต่ไม่ถูกเข้าประจำการ เพราะจับสลากได้ใบดำ หรือคนที่ได้รับการปล่อยตัวเพราะมีคนร้องขอพอให้สามารถสมัครเป็นทหารกองประจำการได้เป็นกรณีพิเศษ
โดยเป็นการรับสมัครก่อนการตรวจเลือกฯ ตามปกติ และใช้ช่องทางการสมัครผ่านทางระบบ ออนไลน์ที่ www.rcm64.rta.mi.th ระหว่างวันที่ 1-28 ก.พ. 2564 หรือการสมัครด้วยตนเองโดยมีหน่วยทหารอำนวยความสะดวก นำลงข้อมูลในระบบออนไลน์ให้ สำหรับคุณสมบัติอื่นๆ ก็เป็นไปตามมาตรฐานการตรวจเลือกทหารฯ เช่น ไม่จำกัดคุณวุฒิ ไม่จำกัดภูมิลำเนาทหาร มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรคที่ขัดต่อการรับราชการทหาร เป็นต้น โดยกองทัพบกกำหนดจำนวนรับสมัครไว้ประมาณ 10,000 อัตรา
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หลังจากสมัครทางออนไลน์แล้วระบบจะแจ้งให้ผู้สมัครได้นำเอกสารหลักฐานไปรายงานตัวต่อคณะกรรมการคัดเลือกในวันที่ 5 มี.ค. 2564 ซึ่งกองทัพบกจะดำเนินการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติและร่างกายที่เหมาะสมต่อการเข้ารับราชการทหาร ณ มณฑลทหารบก 35 แห่งทั่วประเทศ โดยมีผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ร่วมเป็นกรรมการคัดเลือก พร้อมประกาศผลผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรวมถึงหน่วยที่ตนเองจะต้องเข้าประจำการในวันดังกล่าว และจะได้รับการบรรจุเข้าประจำการในผลัดที่ 1/64 คือ ในเดือน พ.ค. 2564
ทั้งนี้ กระบวนการรับสมัครและคัดเลือกจะดำเนินการเสร็จเรียบร้อยก่อนการตรวจเลือกทหารฯ ในระบบปกติ โดยผู้ที่สมัครเป็นทหารด้วยวิธีพิเศษนี้สามารถใช้สิทธิลดเวลาประจำการตามวุฒิการศึกษา สามารถเลือกหน่วยทหารที่ตนเองประสงค์เข้าประจำการได้เฉพาะหน่วยทหารของกองทัพบก และต้องอยู่ในมณฑลทหารบกในพื้นที่ตามภูมิลำเนาทหารหากรับราชการทหารครบ 2 ปี และมีคุณสมบัติครบตามที่ทางราชการกำหนด มีสิทธิในโควตาเฉพาะอีกส่วนหนึ่งในการสอบเข้าโรงเรียนนายสิบทหารบกตามที่กองทัพบกจัดสรรให้ ซึ่งปัจจุบันกองทัพบกจัดสรรโควตาให้ทหารกองประจำการในการสอบเข้าโรงเรียนนายสิบทหารบกร้อยละ 80 และรับจากบุคคลพลเรือนร้อยละ 20
นอกจากนี้ ผู้ที่สมัครเป็นทหารจะได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษ 15 เปอร์เซ็นต์ในการสอบคัดเลือกเข้ารับราชการในสังกัดกองทัพบก รวมทั้งจะได้รับสิทธิสวัสดิการ ค่าตอบแทนเช่นเดียวกับทหารกองประจำการปกติ อย่างไรก็ตาม การรับสมัครทางออนไลน์เป็นกรณีพิเศษนี้ รับเฉพาะผู้ที่มีอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ และผู้ที่เคยผ่านการตรวจเลือกทหารมาแล้วเท่านั้น สำหรับผู้ที่มีอายุ 21 ปี ซึ่งจะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารในปีนี้ไม่สามารถสมัครทางออนไลน์ได้ ต้องเข้ารับการตรวจเลือกตามกระบวนการปกติประมาณเดือนเมษายน 2564 ดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมที่ https://sassadee.rta.mi.th โทร. 0-2223-3659 หรือเฟซบุ๊กกองการสัสดี
รองโฆษกกองทัพบกระบุว่า กองทัพคาดหวังว่าจะมีผู้สนใจและมาสมัครกรณีพิเศษตามโครงการนี้ประมาณ 1 หมื่นคน และหากวัดตามยอดของผู้สมัครในช่องทางตรวจเลือกปกติช่วงเดือน เม.ย.ของปีที่แล้วที่มียอด 4 หมื่นคน ประมาณการของผู้สมัครใจในปีนี้จึงน่าจะได้มากถึง 5 หมื่นนาย ซึ่งจะทำให้มากกว่าครึ่งหนึ่งจากยอดความต้องการของแต่ละปีที่กองทัพบกต้องการทั้งหมดประมาณ 8 หมื่นนาย ส่งผลให้การเรียกเกณฑ์จะเหลือยอดแค่ 3 หมื่นนาย ส่วนการคัดเลือกต้องทดสอบทัศนคติทางการเมืองหรือไม่นั้น พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า เราจะคัดเลือกจากสมรรถภาพร่างกาย จิตใจ เป็นหลัก แต่เรื่องของทัศนคติทางการเมืองไม่ได้นำมาเป็นนัยสำคัญ เหมือนการตรวจเลือกปกติทั่วไปที่ไม่ได้ถามว่า ชอบ ชัง หรือชื่นชมคนใดเป็นพิเศษ แต่ดูว่ามีสภาพจิตใจที่สมบูรณ์หรือไม่ ไม่เหมือนการสมัครเป็นนักเรียนนายสิบหรือ นักเรียนเตรียมทหาร เราจะต้องดูทัศนคติที่ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
“ทั้งหมดนี้จะเข้าสู่ระบบทหารอาสาชัดขึ้น กองทัพก็เพิ่มเติม เสริมมาตรการ จนทำให้คนอยากเป็นทหารมากขึ้นเรื่อยๆ บนพื้นฐานที่เราได้บุคลากรที่มีความมั่นคง ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน และค่าตอบแทน แต่จะเสริมสร้างให้เกิดความมั่นคงในการรับราชการทหาร ซึ่งจะมั่นคงมากกว่าการใช้กระบวนการจูงใจแบบชุดเดียวที่อาจจะทำให้คนมาสมัครเยอะแค่ 1-2 ปีแรก แต่สุดท้ายก็ฟุบหายไป กองทัพก็จะต้องมาแก้ไขปัญหาอีก เชื่อว่าเมื่อเราเติมโครงการเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะเกิดความยั่งยืนมากขึ้น ทำให้เกิดระบบทหารอาสา โดยในอนาคตไม่ต้องเรียกเกณฑ์เลยก็ได้”
ส่วนในอนาคตจะมีการยกเลิกการเกณฑ์ทหารหรือไม่นั้น พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า ระบบการตรวจเลือกทหารยังคงต้องดำรงอยู่ จะไปล้มการตรวจเลือกไม่ได้ เพราะว่าเป็นไปตามกฎหมาย คือ พ.ร.บ.เกณฑ์ทหาร 2497แต่วิธีการเท่านั้นที่ต้องมีการปรับโดยเน้นความสมัครใจเข้ามา ที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์เช่นกรณีของผู้ที่มีเพศกำเนิดที่ไม่ตรงกับเพศสภาพ ซึ่งเราได้แก้ไขปัญหาจนในที่สุดไม่มีปัญหาดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่ากองทัพรับฟัง และพร้อมปรับไปตามสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ 2 พลทหารหนีออกจากค่าย หลังถูกครูฝึกซ้อมโหดเพราะถูกจับได้ว่าแอบสูบกัญชา โดยวันนี้ทางศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 1 ได้ส่งเอกสารชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เข้าใจความรู้สึกของพลทหารและครอบครัวในความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น แบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1. พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเรื่องยาเสพติดของพลทหาร ซึ่งถูกตรวจพบว่าเสพยาเสพติดจึงถูกลงทัณฑ์ตามวินัยทหาร โดยครบกำหนดวันที่ 22 มกราคม 2564 และทางหน่วยพบว่ายังกระทำผิดซ้ำอีก 5 นาย จึงลงทัณฑ์เพิ่มเติม ระหว่างนี้ 2 ใน 5 นาย ได้หลบหนีกลับบ้านและร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมตามที่เป็นข่าว 2. การลงทัณฑ์เกินกว่าเหตุ ทางหน่วยได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งเบื้องต้นมีมูลจึงให้กักบริเวณครูฝึก และสั่งทัณฑกรรม (การบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ อาทิ โยธา) ตามวินัยทหาร ระหว่างการรอผลสอบสวนอย่างเป็นทางการ
ล่าสุด ในวันนี้หน่วยต้นสังกัดได้ติดต่อประสานพูดคุยกับผู้ปกครองของทหารทั้ง 2 นายเพื่อสร้างความมั่นใจ และจะดูแลด้านการรักษาพยาบาล ทั้งนี้ กำลังพลมีความประสงค์ที่จะกลับเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและสอบสวน ซึ่งกองทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่าจะให้การดูแลกำลังพลตามขั้นตอนและวินัยทางราชการ เพื่อให้เกิดความสบายใจแก่ทุกฝ่าย