“กลุ่มบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ” อ่านแถลงการณ์หน้าทำเนียบฯ ไล่ “บิ๊กตู่” ลั่นไม่สมควรเรียกนายกฯ แค่เรียกยามยังให้เกียรติเกินไป ลั่นไม่ยอมรับบังคับใช้ ม.112 ปิดปาก ปชช.คงอำนาจตัวเอง
วันนี้ (25 ม.ค.) ที่บริเวณข้างศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ภายหลังจากกลุ่มลูกบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ เครือข่ายของกลุ่มคณะราษฎร เดินเท้าจากจังหวัดราชบุรีมาถึงทำเนียบรัฐบาลเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตั้งแต่ช่วงค่ำ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านและนอนพักค้างคืนที่บริเวณดังกล่าว
จากนั้นเวลา 10.30 น. นายอนุชิต เริงประดิษฐ์ แกนนำกลุ่มบ้านโป่งไม่อินเผด็จการ นำสมาชิกอ่านแถลงการณ์ โดยมีข้อความระบุว่า หลังจากที่เดินทางมาจากอำเภอบ้านโป่ง เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ถึงทำเนียบรัฐบาลประมาณช่วงค่ำของวันดังกล่าว ระยะทางกว่าร้อยกิโลเมตร เกิดจากความอัดอั้นของประชาชนคนธรรมดาอย่างพวกเราที่ทุกคนย่อมคิดเห็นอย่างเดียวกัน โดยดูได้จากแรงสนับสนุนของทีมงานจากกรุงเทพฯ และผู้ที่เข้ามาสมทบอีกหลายคนในระหว่างทางที่ทนไม่ได้กับการบริหารประเทศของรัฐบาล ที่ไม่มีแม้แต่ความชอบธรรม และไม่ต้องพูดถึงที่มาของอำนาจด้วยว่ามาได้อย่างไร พวกเราไม่แม้แต่จะเรียกผู้นำประเทศคนปัจจุบันว่านายกรัฐมนตรีได้ แค่เรียกว่ายามยังให้เกียรติมากเกินไป เพราะไม่มียามที่ไหนไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง อย่างไรก็ตาม พวกเราไม่ยอมรับการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 ในการปิดปากผู้คนด้วยคดีอาญา เพื่อเป็นเครื่องมือในการคงไว้ซึ่งอำนาจของตัวเอง
เมื่อถามว่าจะปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบฯ ต่ออีกหรือไม่ นายอนุชิตกล่าวว่า กลุ่มของตนเดินเท้ามาเพื่อเป็นการแสดงออกให้รัฐบาลเกิดความละอาย จะลาออกหรือจะทำอะไรก็ทำ และภารกิจเดินเท้าก็สำเร็จแล้ว บรรลุจุดประสงค์แล้ว จากนี้จะดูว่าจะมีกิจกรรมที่ไหนอย่างไรต่อก็จะตามไปสมทบ