จับตา ส.ว. โหวตผ่าน14 รายชื่อที่ผ่านเกณฑ์สมัคร กสทช. ทันก่อนปิดสมัยประชุม 28 ก.พ.นี้หรือไม่ “นัฑ”ชี้ส.ว.ต้องโหวตตามกม.เก่าเหตุกฎหมายให้อำนาจหน้าที่ หากไม่ทำอาจสะดุด ถูกฟ้องร้องได้
วันนี้ (22 ม.ค) นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสรรหากรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่มีนายนภดล เทพพิทักษ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานกรรมการสรรหา พิจารณาคัดเลือกผู้สมัครเข้ารับการสรรหา เป็น กสทช. ทั้ง 7 ด้าน จำนวน 14 คน เสร็จแล้ว ว่า ในวันที่ 26 ม.ค. นี้ ทางกรรมการสรรหาจะต้องพิจารณาบัญชีและรายละเอียดของบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 14 คนอีกครั้ง ก่อนจะพิจารณาส่งบัญชีและรายละเอียดของผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้กับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พิจารณา ทั้งนี้ในส่วนของวุฒิสภา ต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบ ภายใน 30 วันนับจากที่ได้รับบัญชีของผู้ได้รับการคัดเลือก ตามที่กฎหมายกำหนดไว้
นายนัฑ กล่าวด้วยว่า ตามขั้นตอน จะต้องตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ก่อนที่สมาชิกวุฒิสภาจะให้ความเห็นชอบ ขณะที่การลงคะแนนเห็นชอบนั้นจะถือเสียงข้างมากของที่ประชุมเป็นเกณฑ์ อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นคาดว่าวุฒิสภาจะลงมติให้ความเห็นชอบกรรมการกสทช.แล้วเสร็จภายในสมัยประชุมสามัญ นี้ ที่จะครบกำหนดปิดสมัยประชุมวันที่ 28 ก.พ.นี้
“ผมยังไม่ทราบว่าประธานวุฒิสภาจะพิจารณาบรรจุระเบียบวาระเมื่อใด หรือต้องตั้งกรรมาธิการตรวจสอบประวัติหรือไม่ แต่หากต้องตรวจสอบประวัติ ต้องทำภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด เพราะต้องเผื่อเวลาให้วุฒิสภาลงมติ ภายใน 30 วันตามที่กฎหมายกำหนดด้วย แต่ในเบื้องต้นคาดว่า การลงมติให้ความเห็นชอบ บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการกสทช.จะแล้วเสร็จก่อนปิดสมัยประชุมนี้” นายนัฑ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่วุฒิสภาจะให้ความเห็นชอบ กรรมการกสทช. ตามกฎหมายเก่าจะมีปัญหาภายหลังจากที่มี กฎหมายกสทช. ฉบับใหม่ใช่บังคับหรือไม่ เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า ในกรรมการเคยยกประเด็นดังกล่าวหารือเช่นเดียวกัน และได้ข้อสรุปว่า เมื่อกฎหมายให้อำนาจและหน้าที่สรรหา ต้องดำเนินการไปตามกรอบกฎหมาย ส่วนกฎหมาย กสทช.ที่อยู่ระหว่างการปรับแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ ของวุฒิสภานั้น เป็นเรื่องอนาคต ส่วนกรณีที่ร่างพ.ร.บ.กสทช. ที่คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จภายหลังจากที่ได้ กสทช.ชุดใหม่นั้น เป็นเรื่องที่กรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญ พิจารณาร่างพ.ร.บ.กสทช. ต้องพิจารณา ออกบทเฉพาะกาลรองรับ
เมื่อถามว่ากรณีการสรรหาบุคคลเป็นกสทช. นั้นหากมีการฟ้องร้องจะทำให้การพิจารณาสะดุดหรือไม่ นายนัฑ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าจะมีการฟ้องร้องใดๆ หรือไม่ แต่ตามกฎหมายระบุว่าการให้ความเห็นชอบจะไม่สะดุด เพราะมีเหตุแห่งการฟ้องร้องทางกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครให้เป็นผู้สมควรได้รับเลือกเป็นกรรมการ กสทช. ทั้ง 7 ด้าน มีดังนี้
1.ด้านกิจการกระจายเสียง จำนวน 2 คน คือ นางอรษา มุขเตียร์ เปอร์ดี้ พล.อ.อ. มานัต วงษ์วาทย์ 2.ด้านกิจการโทรทัศน์ จำนวน 2 คน คือ ศ.ดร. พิรงรอง รามสูต น.ส.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร 3.ด้านกิจการโทรคมนาคม จำนวน 2 คน คือ รศ.ดร. อธิคม ฤกษบุตร นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ 4.ด้านวิศวกรรม จำนวน 2 คน คือ นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ นายอานนท์ ทับเที่ยง 5.ด้านกฎหมาย จำนวน 2 คน คือ นายจิตรนรา นวรัตน์ ร.ท.ดร. ธนกฤษฎ์ เอกโยคยะ ด้านเศรษฐศาสตร์ จำนวน 2 คน คือ ผศ.ดร.ภักดี มะนะเวศ ศ.อารยะ ปรีชาเมตตา 7.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จำนวน 2 คน คือ พล.ต.ท.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ นายต่อพงศ์ เสลานนท์