“แรมโบ้” จัดหนัก “ธนาธร” เลิกทำตัวลูกคุณหนู นรกมีจริงไม่ต้องรอชาติหน้า รับผลกรรมในชาตินี้แน่นอน ยืนยันการจัดหาวัคซีนโควิด นายกฯ ย้ำต้องทั่วถึงปลอดภัย ทำถูกต้องตามขั้นตอน ยืนยันแจ้งความเอาผิด ม.112 ไม่เกี่ยวข้องนายกฯ แต่ทำในนามส่วนตัวและตามหน้าที่ที่ทนไม่ได้ต่อพฤติกรรม จาบจ้วงสถาบันฯ ไม่เลิก
วันนี้ (22 ม.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การจัดซื้อวัคซีนโควิด เพราะมีความห่วงใยประชาชน ไม่ได้หวังผลประโยชน์ และยังเชื่อว่ารัฐบาลแจ้งความมาตรา 112 เพื่อปิดปาก โดยนายสุภรณ์ระบุว่า ไม่มั่นใจว่าที่นายธนาธรออกมาพูดนั้นเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะสวนทางกับพฤติกรรมที่ผ่านมาของนายธนาธร ที่ล้วนแต่ทำไปเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองเท่านั้น และบางอย่างอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม โดยไม่สนใจว่าแท้จริงแล้วประเทศต้องการความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอยู่จากสถานการณ์โควิดระบาด ซึ่งหากนายธนาธรอยากทำประโยชน์เพื่อประชาชนอย่างแท้จริงก็ไม่ควรออกมาสร้างความวุ่นวายสนับสนุนม็อบออกมาลงถนนตั้งแต่แรก
ส่วนที่นายธนาธรออกมาวิพากษ์วิจารณ์การจัดหาวัคซีนของไทยนั้น นายกฯ ได้ย้ำอยู่เสมอว่าคนไทยทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีน และต้องปลอดภัยสูงสุด เพราะนายกฯ และรัฐบาล ได้ให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้แล้ว รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังยืนยันการจัดหาวัคซีนโควิดเป็นไปตามขั้นตอนของมติคณะรัฐมนตรี และยังสามารถไปค้นดูจากมติคณะรัฐมนตรีทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน โปร่งใส 100%
และการที่นายธนาธรระบุว่า การแจ้งความมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นการทำเพื่อผลทางการเมืองนั้น นายสุภรณ์ยืนยันว่าการที่ตนเองและคณะไปแจ้งความดำเนินคดีต่อนายธนาธรไม่ได้เป็นการสั่งการจากนายกฯ ที่ให้ไปแจ้งความในนามรัฐบาล นายกฯ ไม่ได้มอบให้ไปแจ้งความดำเนินคดี แต่พวกตนเองทำไปในนามส่วนตัวและถือว่าเป็นหน้าที่ ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีด้วย อีกอย่างพวกตนเองก็ถือเป็นประชาชนคนหนึ่งที่ทนไม่ได้ต่อพฤติกรรมของนายธนาธรที่มีการพูดจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง พยายามดึงสถาบันฯ มาเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองไม่หยุด ทำผิดกฎหมายมาตรา 112 ที่เป็นการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจน อีกทั้งยังปั้นแต่งเรื่องโจมตีนายกฯ และรัฐบาล ในช่วงที่นายกฯ กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เพียงเพราะความอิจฉา อาฆาตแค้นส่วนตัวของนายธนาธร ดังนั้นตนเองและคณะจึงไม่สามารถที่จะนิ่งดูดายในเรื่องนี้ได้
นายสุภรณ์ยังขอนายธนาธรอย่าทำตัวเป็นลูกคุณหนูที่เอาแต่ใจตัวเอง เพราะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ด้วย ไม่ใช่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจก็โทษคนอื่น โทษการเมือง แต่ไม่ย้อนดูตัวเองว่าได้ทำผิดกฎหมายอะไรไปบ้าง อย่าใช้แต่อารมณ์ความฐิติอาฆาตมาดร้ายมาทำลายประเทศชาติ ประชาชน ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน ขณะเดียวกัน อยากบอกกับนายธนาธรที่มีฐานะร่ำรวยว่าไม่มีวันที่จะเข้าใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง เพราะนายธนาธรไม่เคยใส่ใจเรื่องของประชาชนเลย ยกเว้นเรื่องของตนเองและครอบครัว อีกทั้งการที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องใดนั้นก็ควรคิดถึงหัวอกของประชาชนด้วย รวมถึงการที่นายธนาธรออกมาจาบจ้วงสถาบันฯ สนับสนุนอยู่เบื้องหลังผู้ที่ทำการจาบจ้วงสถาบันฯ ก็ยังถือเป็นการทำร้ายจิตใจของประชาชนอย่างมาก ประชาชนคนไทยที่จงรักภักดีคงไม่มีวันให้อภัยนายธนาธรอย่างแน่นอน ตนเองมองว่าคนอย่างนายธนาธรที่เป็นคนเนรคุณแผ่นดินเกิดของตัวเอง ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ก็ไม่สมควรอยู่ในประเทศนี้อีกต่อไป และมั่นใจว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็คิดเช่นเดียวกันกับตนเอง
“อย่าได้เอาวัคซีนที่รัฐบาลเอามารักษาชีวิตประชาชน มาโยงใยเล่นตีกินทางการเมืองและทำลายสถาบันฯ เพราะประชาชนคนไทยจะสาปแช่งให้วิบัติมีอันเป็นไป ซึ่งไม่ผลเป็นดีต่อครอบครัวของนายธนาธรเลยสักนิด แผ่นดินไทยสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ใครคิดร้ายต่อแผ่นดินและบ้านเมือง บาปกรรมมีจริง นรกมีจริง ไม่ต้องไปรอรับกรรมในชาติหน้า แต่จะได้รับผลกรรมตามทันในชาตินี้อย่างแน่นอน ไม่เชื่อรอดู” นายสุภรณ์กล่าว