ครม.ถกจัดเลือกตั้งท้องถิ่น “บิ๊กป๊อก” แจง เทศบาลเลือกได้เลย แต่ ผู้ว่าฯ กทม.ต้องชะลอ เหตุเป็นพื้นที่สีแดง ศบค. “หมอตี๋” ชงจัดพร้อมกันสองสนามควบ อบต. ชี้ประหยัดงบ กกต.เบรกเรื่องยุ่งยาก นายกฯไม่ขัด แต่ห่วงหาเสียงคนรวมตัวมากช่วงโควิด
วันนี้ (12 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกร้ฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยก่อนการประชุมนายกฯได้รายงาน ครม.ว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติภารกิจอะไรบ้าง และเมื่อเข้าสู่วาระการประชุม ในส่วนของการหารือการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รายงานการจัดการการเลือกตั้ง พร้อมขอความคิดเห็น ครม.ว่า ควรจะจัดการเลือกตั้งระดับเทศบาล หรือ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ก่อน แต่ในระดับที่สามารถจัดได้เลยก็คือ เทศบาล ขณะที่ อบต.นั้นจะต้องล่าช้าออกไปอีก ส่วนผู้ว่าฯ กทม. นั้น ยังไม่สามารถจัดเลือกตั้งได้ เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19 เพราะกรุงเทพฯเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ของ ศบค.จึงยากต่อการจัดการ
จากนั้น นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พูดขึ้นมาว่า ถ้าเป็นไปได้ อยากให้มีการเลือกตั้ง อบต. พร้อมกันกับเทศบาล เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ จึงทำให้ พ.ต.ท.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงว่า การจัดเลือกตั้งพร้อมกัน สามารถทำได้ แต่จะยุ่งยากในขั้นตอนประกาศรับรอง ที่อาจจะไม่ทัน เพราะเป็นการเลือกตั้งสองตำแหน่งพร้อมกัน และที่ผ่านมา เราไม่เคยใช้วิธีอย่างนี้ จึงเสนอให้เลือกเทศบาลก่อน และเสนอให้กำหนดเป็นวันที่ 21 มี.ค. 2564 อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่ใช้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ประมาณ 8,657 ล้านบาท ใช้ในการเลือกตั้งเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา
ด้าน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ จึงกล่าวขึ้นมาว่า หากจัดการเลือกตั้งในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 จะเป็นปัญหาหรือไม่ จึงทำให้ พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงว่า ไม่เป็นปัญหา เราสามารถรับมือและควบคุมได้อยู่แล้ว และรัฐบาลมั่นใจว่าจะดำเนินการจัดการเลือกตั้งได้
ขณะที่ นายสาธิต กล่าวในที่ประชุมด้วยว่า เราผ่านสถานการณ์การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มาแล้ว จึงมีแผนจัดการอยู่แล้ว หากจะเอาเรื่องโควิด-19 มาเป็นปัจจัยให้ไม่สามารถเลือกตั้งได้ก็คงจะไม่ใช่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงช่วงนี้ ไม่มีรัฐมนตรีคนใดเห็นแย้ง แต่นายกฯ ระบุว่า เป็นห่วงการหาเสียง เนื่องจากการหาเสียงต้องมีการรวมตัวของกลุ่มคนจำนวนมาก จึงขอให้ปฏิบัติตามมาตราการสาธารณสุข และทำความเข้าใจกับประชาชนว่าต้อปฏิบัติตัวอย่างไรในการจะเดินทางมาเลือกตั้ง
นอกจากนี้ นายกฯยังกล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน ที่ให้มีการแจ้งเบาะแสมาที่สายด่วนทำเนียบรัฐบาล 1111 โดยขอให้ ครม.ช่วยประชาสัมพันธ์ แจ้งให้ประชาชนทราบว่าถ้าหากพบการกระทำที่เข้าข่ายให้แจ้งมาโดยตรงที่สายด่วนดังกล่าว หรือช่องทางอื่นๆ ของรัฐบาล
