“ที่ปรึกษาชวน” แนะเด็กก้าวไกลเลิกดรามาปมเลื่อนประชุมสภา ระบุรองปธ.สภา เคยชี้ญัตติแก้ข้อบังคับประชุมฯให้ผ่านอิเล็กทรอนิกส์ไม่เข้าข่ายญัตติด่วน
วันนี้ (6 ม.ค.) นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณีที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวหาว่าการงดประชุมสภาเป็นเพราะเปิดสภาไม่ได้หรือยังพยายามไม่มากพอว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวว่าเปิดประชุมสภาไม่ได้ เพราะถ้าจะเปิดเมื่อไหร่ก็เปิดได้อยู่แล้ว แต่เรื่องงดการประชุมเกิดจาก ส.ส.เอง โดยประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาฯ ขอให้หยุดการประชุมไว้ก่อนเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 และเป็นความเห็นส่วนใหญ่ของที่ประชุมร่วมกันกับประธานสภาฯ ที่เห็นว่าให้งดประชุมในช่วงนี้ไปก่อน บางคนให้งดประชุม 1 เดือน บางคนให้งดประชุม 2 สัปดาห์ ประธานสภาก็ตัดสินใจให้งดประชุมสภา 2 สัปดาห์แล้วดูสถานการณ์อีกครั้ง จากนั้นจะเชิญวิปมาหารือว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะสถานการณ์โควิดเรายังไม่สามารถทำนายได้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ น่าเสียดายที่นายณัฐชาไม่มาร่วมประชุมด้วยจึงไม่ทราบว่าเขามีความเห็นอย่างไรกัน ดังนั้นเรื่องนี้ขอให้จบไม่ต้องมาดรามากันอีกแล้ว
นพ.สุกิจกล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่าพรรคก้าวไกลได้เสนอญัตติด่วนให้ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางแก้ข้อบังคับให้ประชุมผ่านอิเล็กทรอนิกส์นั้น เรื่องดังกล่าวนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 พิจารณาแล้ว เห็นว่าไม่เข้าข่ายเป็นญัตติด่วน และได้แจ้งให้ผู้เสนอญัตติทราบตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้วแล้ว ทำไมเพิ่งมาพูดตนนี้
นพ.สุกิจกล่าวต่อว่า ส่วนมาตราการของสภาขณะนี้มีจุดคัดกรองและมีการติดตั้งเครื่องมือทุกจุดซึ่งเป็นเครื่องมือที่ได้มาตรฐานทุกอย่าง เว้นแต่จะมีผู้ลักลอบเข้ามา และจากที่ประธานสภาฯ กำหนดให้ ส.ส.มีผู้ติดตาม 1 คนเท่านั้น ปรากฏว่าในการประชุมอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาผลกระทบกาสิโนออนไลน์ที่มาจากต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายวินท์ สุธีรชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะอนุ กมธ.มีผู้ติดตามถึง 5 คน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการเป็น ส.ส.ไม่ได้กลัว แต่เป็นห่วงประชาชน เพราะหากติดเชื้อขึ้นมาไม่ได้เจ็บแค่เรา แต่จะเจ็บทั้งครอบครัวและคนรอบข้าง
