xs
xsm
sm
md
lg

“นิพนธ์” ชี้ “สิระ” พาผู้ต้องหาบุกดูสำนวนที่ สภ.เมืองสงขลา ระวังจะหลุดจาก ส.ส.แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
วันนี้ (6 ม.ค.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นำนายอิทธิพล ดวงเดือน กรรมการบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ผู้ต้องหาในคดีอาญา 1975/2562 ของ สภ.เมืองสงขลา เดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.ภูวรา แก้วภารัตน์ ผกก.สภ.เมืองสงขลา เพื่อไปขอดูสำนวนคดีที่ อบจ.สงขลา แจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อบริษัทเอกชน 2 ราย ได้แก่ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ซึ่งมีนายอิทธิพล ดวงเดือน เป็นกรรมการ และบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค จำกัด ซึ่งมี น.ส.ศศิธร ตั้งตรงคิด เป็นกรรมการ ในข้อหาร่วมกันปลอมเอกสาร และแสดงเอกสารอันเป็นเท็จ เพื่อเข้าประมูลการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางและร่วมกันสมยอมราคาอันเป็นเหตุให้ อบจ.สงขลา ได้รับความเสียหาย

โดยคดีดังกล่าวยังเป็นคดีที่ยังอยู่ในสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และมีข้อสังเกตว่านายสิระ เจนจาคะ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคพลังประชารัฐนั้น มีอำนาจมาขอดูสำนวนการสอบสวนที่พนักงานสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นผู้มีส่วนได้เสีย เกี่ยวข้องใดๆ กับคดี อีกทั้งมีข้อน่าสังเกตว่า น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ก็มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เช่นกัน ดังนั้น การที่นายสิระซึ่งเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาขอดูสำนวนคดีดังกล่าวกับพนักงานสอบสวนด้วยนั้นจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง และบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด หรือไม่

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตนายก อบจ.สงขลา ได้กล่าวว่า ข้อเท็จจริงต่างๆ เรื่องนี้อยู่ในสำนวนสอบสวนอยู่แล้ว เหตุเพราะ อบจ.สงขลา ได้รับหลักฐานที่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส และบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค ใช้ประกอบยื่นซองประกวดราคาว่าทั้ง 2 บริษัทยื่นเอกสารปลอมต่อ อบจ.สงขลา และน่าเชื่อว่ามีการฮั้วประมูลกันก็เป็นเรื่องที่ต้องมีการพิสูจน์ความจริงกันไปตามกระบวนการทุกฝ่ายไม่ควรเข้าไปแทรกแซงการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรจะมีใครใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะขั้นตอนในชั้นพนักงานสอบสวนถือเป็นกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น รวมทั้งในเรื่องนี้เมื่อ อบจ.และผู้มีส่วนได้เสียได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วก็ขอให้ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ ให้ระวังเพราะถ้าเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงจะมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ

“การจะมากล่าวอ้างใดๆ อีกนั้นผมคิดว่าเป็นการไม่เหมาะสม เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง แสดงให้เห็นวุฒิภาวะที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ และโดยปกติการกระทำการใดๆ โดยใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบก็หมิ่นเหม่ต่อการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้ต้องบอกให้ชัดว่าทำในนามส่วนตัว หรือทำในนาม กมธ.สภา” นายนิพนธ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น