นายกฯเบรกคำสั่งกทม.ปิดร้านอาหาร 1 ทุ่ม ขยายเป็น 3 ทุ่ม จองเพิ่มวัคซีน 35 ล้านโดสฉีดคนไทย ยกคำแพทย์แจงหน้ากากวาวประสิทธิภาพสูง หลังถูกดราม่าใส่หน้ากากไม่ถูกต้อง วอนฟังข้อมูลรัฐเชื่อมีคนไม่ฟังหวังดิสเครดิต
วันนี้ (4 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) หรือศบค.ว่า วันนี้ประชุมหลายเรื่อง ทั้งเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ในปัจจุบันที่มีตัวเลขสูงขึ้น โดยมีมาตรการดูแลพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น ส่วนการเดินทางข้ามจังหวัดได้มีการตั้งจุดสกัดเพื่อตรวจสอบประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดที่เสี่ยงสูง จากต้นทางและจังหวัดโดยรอบ แต่ไม่ใช่การล็อกดาวน์ เพราะเป็นเรื่องของมาตรการที่แต่ละพื้นที่จะกำหนดขึ้นมาเพิ่มเติมจากที่รัฐบาลกำหนดไปแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้( 5 ม.ค.) จะมีชี้แจงอีกครั้ง
นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ในที่ประชุมได้หารือหาแนวทางปฏิบัติ ซึ่งตนได้ปรึกษาหารือกับทุกส่วน ทั้งแพทย์อาวุโสและคณะแพทย์ที่เป็นตัวแทนในศบค. กระทรงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งต้องขออภัยด้วยหากมีความยากลำบากในการเดินทาง แต่ก็ต้องขอความร่วมมือ อย่างไรก็ตามรัฐบาลให้ความสำคัญในการควบคุมผู้ติดเชื้อให้อยู่ในสถานที่ที่สามารถควบคุมได้ และนำเข้าสู่การตรวจสอบคัดกรองให้ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อจะสูงขึ้น แต่เพียงหากเราควบคุมได้ก็แสดงว่าเราทำตามมาตรการได้ดีพอสมควร ก็ต้องขอขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงคำสั่งกรุงเทพมหานครให้ร้านอาหารในกรุงเทพฯปิดบริการเวลา 19.00 น. ว่า สิ่งสำคัญในเรื่องของร้านอาหารตนได้รับข้อเสนอจากสมาคมภัตตาคารต่างๆ ซึ่งมีผลกระทบสูงเหมือนกัน ฉะนั้นวันนี้ในส่วนที่กทม.ประกาศออกไปตนให้ยกเลิกไปก่อน และให้มีการขายอาหารได้ถึงเวลา 21.00 น. แต่ต้องมีมาตรการที่เราเคยทำไว้แล้วเดิม ทั้งการกำหนดจำนวนคน มาตรการระยะห่าง อะไรต่างๆ โดยทางนายกสมาคมผู้ร้องเรียนมา รับประกันว่าทำได้ ถ้าใครทำไม่ได้ต้องถูกปิด ขอให้ทำได้ตามนั้น ต้องช่วยกันไป เพราะตนไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบมากในเรื่องของธุรกิจอีก อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของเงินที่ต้องจัดหาเพิ่มเติม หรือไม่ต้องจัดหาเพิ่มเติมก็แล้วแต่ ในงบประมาณที่มีอยู่ที่จะเตรียมการรับสถานการณ์ต่อไปด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องวัคซีนที่หลายคนให้ความสนใจและต่างประเทศมีการฉีดมาบ้างแล้ว เราก็ต้องดูให้เกิดความปลอดภัยให้ได้เสียก่อนจริงๆ ไม่มีผลข้างเคียง ซึ่งมาตรฐานองค์การอาหารและยา (อย.) ของเราถือเป็นมาตรฐานที่รับได้ วันนี้ได้ให้กรมควบคุมโรค สถาบันวัคซีนเข้าไปดูแลร่วมกับอย.แล้ว คาดว่าในระยะเวลา 3 เดือนนี้จะได้เข้ามา 2 ล้านโดสก่อน ซึ่งก็ต้องเตรียมแผนว่าจะฉีดให้ใครบ้างตามลำดับความเร่งด่วน และที่เหลืออีก 26 ล้านโดส จะเข้ามาในระยะต่อไป และตนให้เพิ่มเติมไปอีก 35 ล้านโดส ดังนั้นคาดว่าจะฉีดให้คนส่วนใหญ่ได้เกือบหมดทั้งประเทศ ซึ่งก็ต้องดูว่าเมื่อถึงเวลานั้นมีความจำเป็นต้องฉีดทั้งประเทศหรือเปล่า แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีความจำเป็นอย่างนั้น บริษัทของเราที่พัฒนาผลิตวัคซีนก็มีพร้อมอยู่แล้วในขณะนี้ ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้เราต้องช่วยกัน ถ้าเราเอาความคิดเห็นส่วนตัวออกมา ถ้าติอย่างเดียวมันก็ไปไม่ได้หมด ความร่วมมือก็จะเกิดขึ้น
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องหน้ากากวันนี้อยากให้คนได้มีหน้ากากใช้ก่อน ถ้าไม่มีหน้ากากอนามัยก็ใช้หน้ากากผ้า ก็ยังสามารถป้องกันตัวเองและการไปแพร่ระบาดคนอื่นได้ในระดับปลอดภัยในชั้นต้น ถ้าสมมุติว่าใช้หน้ากากอนามัยก็จะยิ่งดีขึ้น แต่ถ้ามันขาดตลาดหรือราคาบางทีผู้มีรายได้น้อยซื้อไม่ไหวมันก็เป็นทางเลือกอีกอัน ส่วนหน้ากากที่ตนใส่เมื่อช่วงเช้าเป็นหน้ากากที่มีวาว ตนได้ถามทางแพทย์บอกว่าหน้ากากแบบนี้ประสิทธิภาพดี แต่หลายคนมาโจมตีตนหาว่าไม่รู้เรื่อง ใส่หน้ากากยังไม่ถูกต้องเลย เอาหน้ากากวาวมาใส่มีโอกาสเข้ามาทางรู แหม ตนก็ไม่รู้จะทำยังไง ถ้าเข้าใจกันแบบนี้มันก็ไปกันหมด ตนใส่หน้ากากแบบนี้เจอหมอที่อยู่ในพื้นที่ยังบอกว่าให้ใส่หน้ากากมีวาว เพราะในพื้นที่มีความเสี่ยงสูง วันนี้ตนถึงเตือนพวกเรานักข่าวขอให้ระมัดระวังอยู่ใกล้ๆกัน ต้องตรวจสอบคัดกรองตัวเอง ตนเป็นห่วงทั้งครอบครัว ลูกเมีย ตนห่วงทุกคน นั่นคือภาระหน้าที่ของนายกฯและรัฐบาลอยู่แล้ว จำเป็นต้องดูในทุกมิติ ทั้งเงินทอง การเยียวยา มาตรการสาธารณสุข มาตรการที่จะเข้มงวดคัดกรองในทุกพื้นที่
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดและทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทุกคนทำงานแบบบูรณาการบนพื้นฐานข้อมูลเดียวกันนั่นคือสิ่งสำคัญสุด ข้อมูลเดียวกันหมายถึงข้อมูลที่มีการตรวจสอบคัดกรองแล้วว่าเป็นข้อมูลที่แท้จริง ถ้าเป็นข้อมูลที่ต่างคนต่างพูดออกมาจะไม่ชัดเจน ขอให้ฟังบ้างแล้วกัน ถ้าใครจะไม่ฟังก็แล้วแต่ คงต้องมีคนไม่ฟังหรือฟังก็หาช่องทางดิสเครดิต มันไม่ใช่หรอกมั้ง ตนว่าวันนี้เป็นเวลาที่เราต้องร่วมมือกัน ทั้งตัวเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติที่รักยิ่งของเรา รัฐบาลพยายามทำเต็มที่ สำหรับมาตรการต่างๆรวมถึงเรื่องการล็อกดาวน์ของแต่ละพื้นที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณา