วันนี้ (4 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาปิดพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการปิดอุทยานฯ แต่ควบคุมปริมาณผู้เข้าพื้นที่เหลือประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ จาก 70 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เกิดพื้นที่ว่างมากขึ้น และจะให้อุทยานแห่งชาติแต่ละแห่งที่มีคณะกรรมการฯ ประชุมพิจารณาในแต่ละพื้นที่ของตัวเองว่าสถานการณ์ในแต่ละจังหวัดมีความเสี่ยงต่างกันอย่างไร หากส่วนกลางโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ออกคำสั่งไปทีเดียว แต่บางพื้นที่ระดับความเสี่ยงไม่เท่ากัน เช่น บางพื้นที่สีแดง บางพื้นที่สีเหลือง จึงต้องให้หัวหน้าอุทยานฯ ประสานกับทางจังหวัดเพื่อพิจารณา ทั้งนี้ ตนได้กำชับแต่ละอุทยานฉีดยาฆ่าเชื้อบริเวณที่ประชาชนใช้บริการมาก เช่น ห้องน้ำ และจำกัดบุคคลเข้าออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อกังวลเนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งเกิดความแออัดเกินไป เช่น การไปดูทะเลหมอก นายวราวุธกล่าวว่า ช่วงปีใหม่ ตนได้ไปตรวจอุทยานเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พบว่าบางจุดอาจจะมีคนเยอะ แต่ในภาพรวมมีปริมาณเต็นท์ประมาณ 5 พันหลัง กระจาย 4-5 จุดของพื้นที่ และจัดตั้งเต็นท์ก็มีความห่างพอสมควร และกำชับหัวหน้าอุทยานขอความร่วมมือประชาขนให้รักษาระยะห่าง หากไม่สามารถทำได้คงต้องปิดอุทยาน
เมื่อถามถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวติดเชื้อโควิด-19 แล้วเดินทางไปภูทับเบิกจะมีมาตรการดูแลอย่างไร นายวราวุธกล่าวว่า ภูทับเบิกยังเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ไม่ได้อยู่ในความดูแลของกรมอุทยานฯ แต่อยู่ในการดูแลของกรมป่าไม้ซึ่งมีพื้นที่ดูแลอยู่มาก จึงขอให้กำชับทุกพื้นที่ที่ใช้เป็นแหล่งนันทนาการ ให้ใช้มาตรการสอดคล้องกับกรมอุทยานเพื่อดูแลตามมาตรการ ทั้งนี้ ภูทับเบิกเป็นสถานที่ทางธรรมชาติจึงไม่เหมือนกับสถานที่อื่น เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือโรงเรียน เมื่อเกิดมีข่าวพบผู้ติดเชื้อ เราได้ทำการฆ่าเชื้อทุกอย่าง จึงยังไม่มีการปิดสถานที่แต่จำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเยี่ยมชมมากขึ้น