“บิ๊กอุ้ย” โชว์กินอาหารทะเลปรุงสุกจากมหาชัย สร้างความเชื่อมั่น พร้อมรับซื้อ 1 หมื่นกิโล แจกจ่ายหน่วย ทร. กอ.รมน. เร่งประชาสัมพันธ์ ผ่อนผันต่างด้าวอยู่ในไทย และทำงานถูกต้องตาม กม.เป็นกรณีพิเศษ ป้องกันนายจ้างเท-แรงงานเตลิด กันโควิดระบาด
วันนี้ (30 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้นำผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ และ ศรชล. ร่วมรับประทานอาหารเมนูที่ปรุงจากอาหารทะเล ส่งตรงจากเรือประมงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อยืนยันว่า อาหารทะเลของจังหวัดสมุทรสาคร มีความปลอดภัยปลอดเชื้อ ไร้การปนเปื้อนจาก COVID-19
โดย ทร.ได้รับซื้อผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ส่งตรงจากกลุ่มเรือประมงพาณิชย์ ที่เข้าร่วมโครงการตรวจคัดกรองเชื้อ COVID-19 ในกลุ่มแรงงานเรือประมง จำนวน 60 ลำ และในกลุ่มแรงงานท่าเทียบเรือ 16 แห่ง และจะนำไปแจกจ่ายให้กับกำลังพลในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวน 9 หน่วย อาทิ โรงเรียนนายเรือ วิทยาลัยพยาบาลทหารเรือฯ กรมสารวัตรทหารเรือ กรมพลาธิการทหารเรือ เป็นต้น และอีก 3 หน่วย ประกอบด้วย โรงเรียนชุมพลทหารเรือ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ฯ และเรือหลวงจักรีนฤเบศร ในพื้นที่สัตหีบ ทั้งหมดจำนวน 10 ตัน หรือ 10,000 กิโลกรัม
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนธุรกิจภาคประมง เจ้าของเรือประมง ร่วมส่งขบวนรถลำเลียงอาหารทะเลจากท่าเทียบเรือแพปลาพรพีรพัฒน์ (ท่าเรือเจ๊จันทร์) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มายังกองทัพเรือโดยกรมแพทย์ทหารเรือ ได้จัดบุคลากรทางการแพทย์มาให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่กองบริการกรมพลาธิการทหารเรือในการทำความสะอาดวัตถุดิบก่อนนำไปประกอบอาหาร ที่กองบริการ กรมพลาธิการทหารเรือ ภายในกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม ช่วงบ่าย ผบ.ทร.ได้เยี่ยมชมการลำเลียงวัตถุดิบอาหารทะเลจากสมุทรสาคร เพื่อส่งมอบให้แก่หน่วยต่างๆ ที่กองบัญชาการกองทัพเรือพื้นที่วังนันทอุทยาน
พล.ร.อ.ชาติชาย กล่าวว่า ทางกองทัพเรือสนับสนุนนโยบายของทางรัฐบาลที่จะช่วยเหลือเกษตรกร และชาวประมง ซึ่งทางจังหวัดสมุทรสาครทางกองทัพเรือได้ส่ง ศรชล.ลงไปช่วยเหลือเกษตรกรและชาวประมง ในพื้นที่ที่กองทัพเรือลงไปสนับสนุนดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งทางกองทัพเรือได้จัดกำลังพล พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ทหารเรือ เข้าไปร่วมสนับสนุนในการดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน โดยจะดำเนินการในทุกพื้นที่ ศรชล. รวมท่าเทียบเรือ 23 จังหวัด ก็จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
พล.ร.อ.ชาติชาย กล่าวว่า ในด้านของการปฏิบัติงาน เราได้กำชับให้กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาครทุกนายให้ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองให้ดีและให้แพทย์เข้าทำการตรวจเรือประมงก่อนที่จะเข้าเทียบท่าเพื่อที่จะให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเมนูอาหารที่ผู้บัญชาการทหารเรือกินโชว์วันนี้ ประกอบด้วย ต้มยำปลาเก๋า, ปลาทูทอดราดน้ำพริก, ผัดสะตอกุ้ง, ปลาอินทรีแดดเดียว, ปลาหมึกผัดฉ่า, หอยเชลล์ราดซอสกระเทียมพริกไทย, ปลาสากผัดคื่นฉ่าย เป็นต้น
ด้าน พล.ต. ธนาธิป สว่างแสง โฆษกอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 63 ตามที่ ครม. มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงาน เสนอการผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา, ลาว และ เมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่นั้น
พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเลขาธิการ กอ.รมน.(1) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.ศรมน.) ได้มอบแนวทางในการปฏิบัติงานให้กับ รอง ผอ.รมน.จว.(ทหาร) ที่มีแรงงานต่างด้าวอยู่ในพื้นที่ดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน มีหน้าที่ในการติดต่อประสานงาน อำนวยความสะดวกร่วมกับเจ้าหน้าที่ รวมถึงการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แนวทางในการผ่อนผันให้กับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ สามารถอยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ เพื่อให้นายจ้าง/สถานประกอบการ แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูลอย่างถูกต้องทั่วถึง โดยมีกำหนดการดำเนินการระหว่างวันที่ 15 ม.ค.-13ก.พ. 64
กอ.รมน. โดยศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จึงประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน และขอให้นายจ้างสถานประกอบการ แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ รีบดำเนินการตามที่มีมติ ครม. ดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้มีโอกาสเข้ารับการตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาผู้ที่ติดเชื้อ ซึ่งจะทำให้สามารถดำเนินการเฝ้าระวัง ติดตาม ควบคุม และป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาด สร้างความมั่นคงทางด้านสาธารณสุขของประเทศ ตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจเอกชนที่มีความต้องการใช้แรงงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา ได้ในภาพรวมต่อไป