xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เยี่ยมหน่วยคัดกรองเชิงรุกระยอง แนะใช้แอปฯหมอชนะป้องกันโควิด ขอไม่ประมาท

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ประยุทธ์” ตรวจเยี่ยมหน่วยตรวจคัดกรองเชิงรุกเนินอุไร จ.ระยอง ให้กำลังใจบุคลากรสาธาณสุข-ชาวระยอง แนะใช้แอปพลิเคชันหมอชนะป้องกันโควิด-19 ย้ำไม่ประมาท ดูแลป้องกันตัวเองตามมาตรการอย่างถูกต้อง



วันนี้ (29 ธ.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (29 ธ.ค.63) เวลา 15.20 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยตรวจคัดกรองเชิงรุกเนินอุไร ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง ซึ่ง จ.ระยอง กำหนดให้เป็นจุดคัดกรองเพื่อตรวจหาเชื้อสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 โดยโรงพยาบาลระยอง จัดเจ้าหน้าที่ชุดพิเศษ ตั้งเต็นท์ตรวจวัดอุณหภูมิ และคัดกรอง ตรวจสอบประวัติผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและตรวจหาเชื้อ พร้อมกับนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลจังหวัดระยอง และให้กำลังใจบุคลากรสาธารณสุข ณ โรงพยาบาลระยอง โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ร่วมการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ด้วย

นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปกระบวนการตรวจคัดกรองและเยี่ยมชมหน่วยตรวจคัดกรองเชิงรุกเนินอุไร ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 27 ธ.ค. 63 เป็นต้นมา เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ของทุกวัน มีการแยกกลุ่มเสี่ยงสูง เสี่ยงกลาง และเสี่ยงต่ำ ซึ่งมีประชาชนมารับบริการประมาณวันละ 400-500 คน จนถึงขณะนี้มีประชาชนเข้ารับการตรวจคัดกรองแล้วประมาณ 1,280 คน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เสียสละดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ และขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ดูแลป้องกันตนเองด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ต้องดูแลซึ่งกันและกัน และขอให้เชื่อฟังมาตรการของรัฐ ทั้งนี้ ทุกอย่างรัฐบาลทำเองทั้งหมดไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนทุกฝ่าย ขออย่าได้โทษกันไปกันมา สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องดูแลตนเองให้ดีที่สุด เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ และให้สังเกตอาการตนเองหากพบว่าผิดปกติ หรือสงสัยจะติดเชื้อให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อปฏิบัติตนเองได้อย่างถูกต้อง ต้องใส่หน้ากากอยู่เสมอและเว้นระยะห่างทางสังคมด้วย โดยขอให้ประชาชนอย่ากลัวโควิด-19 แต่ขอให้ระมัดระวังไม่ประมาท ดูแลป้องกันตัวเองอย่างถูกต้อง รวมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวระยองทุกคนมีความเชื่อมั่น และขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับฟังสรุปภาพรวมการควบคุมและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของ จ.ระยอง จากนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง โดย จ.ระยอง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จำนวน 56 ราย รวมกับผู้ที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้ 92 ราย รวมเป็นมีผู้ติดเชื้อสะสม 148 ราย ที่ได้กระจายไปยังอำเภอรอบนอก โดยติดเชื้อจากกลุ่มการพนัน และคนในครอบครัวที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้ จากสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นดังกล่าว คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ระยองจึงประกาศปิดพื้นที่เสี่ยงทั้งจังหวัด และห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวทุกกรณี ขณะที่ นพ.ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง ได้รายงานถึงการดำเนินการด้านรักษาพยาบาลจากสถานการณ์โควิด -19 จ.ระยอง โดยมีการเตรียมการทั้งอุปกรณ์ บุคลากรทางการแพทย์ และสถานพยาบาลไว้รองรับ กรณีผู้ป่วยไม่เกิน 200 คน ใช้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขและเอกชน ผู้ป่วยไม่เกิน 500 คน ใช้โรงพยาบาลสนาม (Hospital) และผู้ป่วยเกินกว่า 500 คน ใช้โรงพยาบาลสนาม (อาคารที่มีเตียงรวมกัน) และมีสถานที่ตรวจโควิด-19 ได้แก่ โรงพยาบาลระยอง เนินอุไร และโรงพยาบาลระยอง สาขาเกาะหวาย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเดินทางมา จ.ระยอง วันนี้ ว่า เพื่อมาให้กำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง และประชาชนชาว จ.ระยอง รวมทั้งติดตามการดำเนินการตามมาตรการ เช่น ที่หน่วยคัดกรองเนินอุไร โดยขณะนี้สถานการณ์ จ.ระยอง ยังสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่งแต่ก็ยังต้องอยู่ในช่วงที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก หากสามารถคลี่คลายลงไป ก็จะลดระดับลงไปเรื่อยๆ ซึ่งอยู่ที่ความร่วมมือของประชาชนทุกคน โดยนายกรัฐมนตรีแนะให้นำเทคโนโลยีดิจิทัลแอปพลิเคชันหมอชนะ มาใช้ในการดูแลประชาชนป้องกันโควิด-19 ควบคู่กับการติดตามสถานการณ์ภายนอกพื้นที่และในพื้นที่รวมถึงสถานการณ์จากต่างประเทศ เพื่อปรับการดำเนินการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำให้ทุกฝ่ายสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องกับประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกจนเกินไป รวมไปถึงการสร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในสังคมไม่ให้เกิดการรังเกียจซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ในส่วนของวัคซีนป้องกันโควิด-19 คาดว่าน่าจะสามารถใช้ได้ในปีหน้า ซึ่งขณะนี้ในบางประเทศก็เริ่มใช้แล้ว

สำหรับกรณีบ่อนการพนัน จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดเด็ดขาด หากพบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะมีการตรวจสอบ และหากพบกระทำผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมายทันที ขณะเดียวกัน ขอให้ประชาชนอย่าไปในสถานที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะแหล่งการพนันต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐต้องเข้มงวดดูแลแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศ












กำลังโหลดความคิดเห็น