กองทัพยันทำแบบเดียวกับ ปชช. เผยรองเสธ.ทบ.ลงพื้นที่สมุทรสาครตรวจโควิดแล้ว

รองโฆษก ทบ.แถลงยันไม่ต้องห่วงรองเสธ ทบ.ลงพื้นที่สมุทรสาคร หลัง ผวจ.ติดโควิด รอผลตรวจจากแพทย์ยืนยัน เข้ารับการตรวจแล้วรอผลอย่างเป็นทางการ ย้ำ ปชช.ทำเช่นไร กองทัพก็ทำเช่นนั้น

วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการทำงานของกำลังพลในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร พื้นที่เสี่ยงซึ่งทางกองทัพได้มีมาตรการให้กำลังพลดูแลตัวเองก่อนเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ทางกรมแพทย์ทหารบกได้มอบอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการปฏิบัติภารกิจ ให้กำลังพลใครมีหน้าที่อะไรใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ ก็จะมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้

ทางผู้บัญชาการทหารบกได้มีความห่วงใยและได้กำชับการไปปฏิบัติงานในพื้นที่ที่จะต้องมีความรอบคอบในการดูแลตัวเอง ทำให้เกิดความปลอดภัยต่อตนเอง จะได้ไม่ติดเชื้อ อีกทั้งมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถที่จะไปดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ เป็นความห่วงใยซึ่งผู้บังคับบัญชาได้กำชับมาตั้งแต่ก่อนไปปฏิบัติภารกิจแล้ว หากกำลังพลนายใดมีความรู้สึกไม่สบายในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ดังกล่าว ทางหน่วยจะเป็นผู้ดูแลภายใต้คำแนะนำของกรมแพทย์ทหารบก

เมื่อถามว่าเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 63 พล.ท.สันติพงษ์ ธรรมปิยะ รองเสนาธิการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ศบค.ทบ.) ได้เข้าร่วมประชุมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทสาคร ในเรื่องการจัดพื้นที่โรงพยาบาลสนาม ขณะนี้ทราบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า กำลังพลที่ทางผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้ลงไปประสานการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร วันนั้นรองเสนาธิการทหารบกได้ไปพบกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และมีหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในสายงานของกองทัพบกร่วมคณะไปด้วยไป เพื่อไปดูว่าจะทำอย่างไรให้การสนับสนุนและการทำงานในเรื่องของการป้องกันโควิด-19 ให้ดีที่สุด เมื่อมีประกาศว่าผู้ว่าราชการจังหวัดติดไวรัสโควิด-19 คนที่มีความเสี่ยงสูงทางกรมแพทย์ทหารบกได้มีคำแนะนำให้ในเรื่องของการไปตรวจ และรวมถึงหากมีความจำเป็นก็จะต้องมีการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรฐานของ ศบค. รวมถึงตามที่กรมแพทย์ทหารบกได้ให้คำแนะนำและกำชับลงไป

“ถือว่าเป็นการลงพื้นที่ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ แม้ว่าจะมีความเสี่ยง แต่เป็นภารกิจที่กองทัพจำเป็นจะต้องลงไปทำงาน สิ่งนี้ทางกองทัพจะดูแลและให้คำแนะนำในเรื่องดังกล่าวอย่างดีที่สุด ล่าสุดทางรองเสนาธิการทหารบก ได้เดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้ว ในส่วนของเรื่องการสอบสวนโรคเป็นหน้าที่ของทางกระทรวงสาธารณสุขและทางกรมแพทย์ทหารบกจะเป็นผู้ดำเนินการ ไปที่ไหนอย่างไรจะมีกระบวนการตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่แล้ว และขอให้มั่นใจเพราะทุกท่านได้ให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะถือว่าเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล และเป็นภารกิจของกองทัพบกที่มอบหมายให้เพื่อไปดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมให้ความร่วมมือทำตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างดีที่สุดเหมือนกับเคสทั่วๆ ไป ประชาชนทำอย่างไร กองทัพก็ทำใช่นั้น” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าว