กกต.เตือนผู้สมัคร อบจ.ต้องแจ้งบัญชีรายรับ-รายจ่ายเลือกตั้งภายใน 22 มี.ค. 64 ชี้ค่าใช้จ่ายหาเสียงก่อนประกาศเลือกตั้ง ต้องนำมารวมด้วย
วันนี้ (26 ธ.ค.) สำนักงาน กกต.แจ้งว่า หลังจากการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.แล้ว ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกคนทั้งที่ได้รับเลือกตั้งและไม่ได้รับเลือกตั้ง จะต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งพร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ครบถ้วนตามความเป็นจริง ภายใน 90 วัน นับจากวันเลือกตั้ง
ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 62 ประกอบข้อ 123 ข้อ 124 และข้อ 230 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 โดยยื่นต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ.1/13 (ก) - ส.ถ./ผ.ถ. 1/13 (ช) ซึ่งกำหนดระยะเวลา90วันจะครบภายในวันเสาร์ที่ 20 มี.ค. 64 แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดทำการ จึงนับวันจันทร์ที่22 มี.ค 64 ซึ่งเป็นวันทำการแรกต่อจากวันหยุดทำการเป็นวันสุดท้ายของระยะเวลาการยื่นบัญชีรายรับ และรายจ่ายในการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ผู้สมัครสามารถยื่นด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจเป็นหนังสือให้ผู้อื่นไปยื่นแทน ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ก็ได้ โดยการจัดทำบัญชี ให้บันทึกรายการรายรับ รายจ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง กรณีที่เป็นค่าใช้จ่ายซึ่งเกิดขึ้นก่อนประกาศให้มีการเลือกตั้งโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ต้องนำมารวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งด้วย และทุกรายการค่าใช้จ่ายจะต้องมีเอกสารหลักฐานประกอบการบันทึกบัญชีที่เป็นใบรับเงินทรัพย์สิน ตามแบบ สถ/ผถ.1/13 (จ) เอกสารหลักฐานประกอบการบันทึกบัญชีที่เป็นใบเสร็จรับเงิน หรือใบสำคัญรับเงิน ตามแบบ ส.ถ /ผถ.1/13 หรือเอกสารหลักฐานแห่งหนี้ เอกสารหลักฐานประกอบการบันทึกบัญชีที่เป็นใบรับรองการจ่ายเงิน ตามแบบ ส.ถ/ผ.ถ.1/13 (ช) ซึ่งเอกสารทั้งหมด อย่างน้อยต้องมีรายการที่ระบุ วัน เดือน ปี ชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่ของผู้ให้เงินหรือทรัพย์สิน ผู้รับเงินหรือทรัพย์สิน รายละเอียดการรับเงินหรือทรัพย์สิน จำนวนเงิน และลายมือชื่อของผู้ให้เงินหรือทรัพย์สิน และผู้รับเงินหรือทรัพย์สิน เมื่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ได้รับบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้ง จากผู้สมัครแล้ว จะนำไปปิดประกาศไว้ ณ สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัด อบจ.ของแต่ละจังหวัด และสถานที่อื่นที่เห็นสมควร ต่อไป ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดหรือบริการข้อมูลสายด่วน 1444