xs
xsm
sm
md
lg

“แรมโบ้” ซัด “พิธา” เปรียบเทียบพรรคอนาคตใหม่ บริหารคนส่วนน้อยยังมีคนลักลอบทำผิดกฎหมายจนพรรคถูกยุบ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“สุภรณ์” ซัด “พิธา” เปรียบเทียบพรรคอนาคตใหม่ บริหารคนส่วนน้อยยังมีคนลักลอบทำผิดกฎหมายจนพรรคถูกยุบ ทำไมไม่ถามหาความรับผิดชอบกับนาย “ธนาธร” บ้าง ย้ำ “นายกฯ” บริหารประเทศใหญ่กว่าพรรค มีคนฝ่าฝืนกฎหมาย ต้องจัดการกับคนชั่วมาลงโทษให้ได้ ไม่เคยปัดความรับผิดชอบและตั้งใจหามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิดสู่ประชาชนอย่างเต็มที่

วันนี้ (24 ธ.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นต่อคำพูดของนายกฯประโยคที่ว่า เพียงคนไม่กี่คนที่ละเลยความรับผิดชอบต่อสังคม จะสร้างปัญหาให้คนเป็นล้านๆ ได้ แสดงเห็นถึงทัศนคติที่โทษคนอื่นยกเว้นตนเองและรัฐบาล โดย นายสุภรณ์ ยืนยันว่า หากนายพิธาได้ติดตามการทำงานของนายกฯก็จะเห็นถึงความจริงใจตั้งใจในการเข้ามาแก้ไขปัญหา และยืนยันว่า นายกฯไม่เคยปัดความรับผิดชอบ ไม่เคยกล่าวโทษใคร เพราะคนที่ลักลอบเอาแรงงานต่างด้าวชาวพม่าเข้ามา เป็นคนที่ไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายหวังประโยชน์ส่วนตัว และถือเป็นคนชั่วช้าที่สุด ต้องเร่งรัดเอาตัวมาดำเนินคดีให้ได้ อยากถามกลับนายพิธา ว่า การที่นายกฯตั้งใจจริงใจและจะจัดการคนชั่วพวกนี้เป็นการโยนความผิดตรงไหน

ส่วนตัวมองว่าการที่นายกฯพูดในลักษณะดังกล่าวเป็นการพูดถึงคนที่ทำผิดกฎหมาย ไม่รับผิดชอบต่อสังคม เพราะนายกฯและรัฐบาลจะต้องปกป้องคนส่วนใหญ่และประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ ยังมองว่าไม่มีนายกฯหรือรัฐบาล แม้แต่ประชาชนในประเทศอยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ไม่อยากให้คนเห็นแก่ตัวคนชั่วช้า กระทำผิดกฎหมายลักลอบพาแรงงานต่างชาติเข้ามาอย่างแน่นอน และนายกฯยังย้ำเสมอว่าจะต้องลงโทษกับผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายในการช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงาน นอกจากนี้ นายกฯยังแสดงความเป็นห่วง โดยจะได้หามาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบด้วย

สำหรับการยังคงใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น นายสุภรณ์ ระบุว่า นายพิธา ก็เห็นแล้วว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้น ที่ผ่านมายังสามารถแก้ไขปัญหาได้ จนผลการแพร่เชื้อนิ่งมาในระยะหลายเดือนจนเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น การท่องเที่ยวในประเทศเริ่มขยายตัว นายพิธา ก็รู้แก่ใจและทราบดี

“นายพิธา ไม่ต้องไปปกป้องผู้ที่ทำผิดกฎหมาย ทำให้บ้านเมืองได้รับผลกระทบ รวมถึงไม่ต้องห่วงว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้ชุมนุมเลย แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ควรหันมาเป็นห่วงประชาชนในประเทศจะดีกว่า และที่นายพิธาบอกให้นายกฯปรับทัศนคตินั้น ตนเองมองว่าคนที่ควรปรับทัศนคติน่าจะเป็นนายพิธามากกว่า ที่ควรเปิดใจให้กว้าง เห็นประโยชน์ของประชาชนและประเทศมากกว่าตัวเอง เพราะนายพิธาคือผู้แทนของประชาชน ก็ต้องดูแลประชาชน และหัดยอมรับในการทำงานของคนอื่นบ้างก็จะเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวเองและประเทศชาติ ไม่ใช่เห็นว่าใครทำดี ทำถูกต้องก็จะตำหนิท่าเดียว”

"ประเทศและสังคมที่มีประชาชนจำนวนมาก แต่ก็ยังมีคนส่วนน้อยที่ยังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน กล้าฝ่าฝืนกระทำผิดกฎหมายทั้งที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ก็พยายามตรวจตรารัดกุมเฝ้าระวังอย่างเต็มที่แล้ว ก็ยังมีเล็ดรอดได้ ก็ไม่ต่างอะไรที่ตนอยากเปรียบเทียบกับกรณีประเด็นที่พรรคอนาคตใหม่ก่อนถูกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ก็มีคนในพรรคบางคนก็ฝ่าฝืนกฎหมายเล็ดรอดกระทำผิดกฎหมาย จนทำให้พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ทั้งที่พรรคอนาคตใหม่ ปกครองด้วยคนไม่กี่คนก็ยังทำผิดให้คนอื่นเดือดร้อน สุดท้ายนายพิธาต้องมาตั้งพรรคใหม่ คือ พรรคก้าวไกล เปรียบดังเรื่องคนที่แอบลักลอบเอาแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศเหมือนกัน เมื่อปัญหามันเกิดขึ้นด้วยคนไม่กี่คน นายกฯและรัฐบาล เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็ตั้งใจแก้ปัญหาช่วยกันอย่างเต็มที่ไม่เคยคิดปัดความรับผิดชอบจะจัดการกับคนที่ทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด และหามาตรการยับยั้งไม่ให้เชื้อโควิดแพร่กระจายไปสู่ประชาชนให้ปลอดภัยในชีวิตสูงสุด และยังมีมาตรการช่วยเหลือเยียวผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

“กรณีพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ตนไม่เคยเห็น นายพิธา ออกมาเรียกร้องให้นายธนาธร ออกมารับผิดชอบในการทำให้กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค พรรคอนาคตใหม่เดือดร้อนบ้าง ทำไมไม่ต่อว่านายธนาธรบ้างว่า อย่าปฏิเสธความรับผิดชอบที่ทำให้พรรคถูกยุบ และกรรมการพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองนับ 10 ปี ทำให้หมดอนาคตทางการเมือง ที่ตนพูดเปรียบเทียบไม่ได้มีเจตนาเหน็บแนมอะไร เพียงต้องการให้นายพิธา รู้จักวิธีคิด ว่า การเป็นผู้นำบริหารคนจำนวนเล็กน้อยยังมีคนแอบลักลอบทำผิด กฎหมายพรรคการเมือง เปรียบเทียบเช่น นายกฯประยุทธ์ บริหารปกครองประเทศชาติขนาดใหญ่กว่าพรรค ก็ต้องมีคนฝ่าฝืนกฎหมายแน่นอน ก็ต้องแก้ไขกันไป นายกฯไม่เคยนิ่งนอนใจ ขอร้องนายพิธา ควรช่วยคิดหาแนวทางแก้ไขช่วยกันในฐานะเป็นตัวแทนประชาชน อย่าพูดซ้ำเติมกล่าวหาคนที่ทำงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่พยายามทุ่มเทเหน็ดเหนื่อย ดังนั้น ขวัญและกำลังใจคือ สิ่งที่มีค่าสูงสุดในเวลานี้ ถ้านายพิธา คิดว่ารักประเทศไทย รักประชาชนคนไทย อย่าซ้ำเติมหรืออย่าทิ่มแทงทำลายขวัญกำลังใจกันเลยครับ” นายสุภรณ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น