xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กบี้” เข้มชายแดนปีใหม่กันลักลอบโควิด-ยาเสพติด พร้อมเสริมอุปกรณ์ ยุทโธปกรณ์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (แฟ้มภาพ)
ผบ.ทบ.สั่งเข้มสกรีนชายแดนช่วงปีใหม่ หวั่นประชาชนประเทศเพื่อนบ้านใช้ช่วงเคานต์ดาวน์ลอบเข้าไทย กำชับสกัดโควิด-ยาเสพติดเข้าประเทศ พร้อมเสริมอุปกรณ์ ยุทโธปกรณ์ให้หน่วยชายแดน

วันนี้ (18 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก แถลงข่าวภายหลังการประชุม หน่วยขึ้นตรงกองทัพบกระดับผู้บังคับกรมและผู้บังคับกองพันทั่วประเทศว่า ปีนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่พิเศษ และทำให้มีงานมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องโควิด-19 ในพื้นที่ต่างๆ

การเรียกผู้บังคับกรมและผู้บังคับกองพันมาสั่งการในวันนี้เพื่อจะได้มีเวลากลับไปเตรียมตัววางแผนรับสถานการณ์ในช่วงปีใหม่ เนื่องจากกำลังพลปฏิบัติงานหน้าที่ตามแนวชายแดนไม่ได้หยุดปีใหม่เหมือนประชาชนทั่วไป ถือเป็นกำลังพลที่เสียสละ เพราะปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 มีโอกาสเพิ่มการระบาดจากประเทศรอบข้าง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากองทัพบกสั่งเพิ่มกำลังตามแนวชายแดนภาพรวม 5 กองร้อย เน้นกองกำลังผาเมือง 2 กองร้อย พร้อมอุปกรณ์ป้องกันโควิด เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่เหมาะสมและจะเป็นเช่นนี้ในทุกเดือน เพราะเราไม่รู้ว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แต่ในฐานะของกำลังป้องกันชายแดนที่ป้องกันคนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมกับ ทหารเรือ ตำรวจตระเวนชายแดน และประชาชนในหมู่บ้านด้วยอก็ต้องทำหน้าที่ตลอด

“ตามนโยบายของรัฐบาล หรือ ศบค.ใหญ่ กำหนดว่าปีใหม่เราไม่ได้ล็อกดาวน์ประเทศ เรายังมีการจัดงานได้ตามปกติ แต่ภายใต้มาตรการโควิดที่เหมาะสม เพราะฉะนั้น เราไม่สามารถประกันหรือมั่นใจได้ว่าประเทศรอบข้างที่เขาไม่สามารถจัดงานเทศกาลปีใหม่ได้ อาจะลักลอบเข้ามาร่วมเคานต์ดาวน์กับเรา โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดนเช่นภาคเหนือ”

พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวว่า นอกจากนี้เน้นย้ำเรื่องของอุบัติเหตุ ในขณะเดียวกัน หน่วยทหารต้องตั้งจุดบริการต่างๆ ร่วมกับจังหวัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จิตอาสา ต้องเน้นย้ำในเรื่องของการอำนวยความสะดวกการให้บริการและการดูแลประชาชนในการเดินทางเหมือนทุกปีที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าพยายามลดอุบัติเหตุให้ได้ เพราะปัญหาของประเทศ มีประชาชนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุมากกว่าโควิดแต่คนไม่กลัวอุบัติเหตุ แต่กลัวโควิด ก็เป็นเรื่องที่ที่น่าแปลก

ผู้บัญชาการทหารบกยังกล่าวถึงสกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายโดยเฉพาะยาเสพติดตามแนวชายแดนในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาว่า ในรอบเดือนตุลาคม 2563 ที่มีการสับเปลี่ยนกำลัง ทางเจ้าหน้าที่ทหารสามารถสกัดกั้นยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าได้ถึง 12 ล้านเมล็ด ตนได้มอบรางวัลให้ทางหน่วยไปแล้ว และในเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมาเป็นที่น่าตกใจว่าเราสามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้เพิ่มขึ้นอีก 15 ล้านเมล็ด ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมาเราสามารถสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดได้ถึง 27 ล้านเมล็ด ซึ่งเดือนพฤศจิกายนเดือนเดียวมากกว่าเดือนตุลาคม ถึง 1 เท่าตัว

พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวอีกว่า ตนและผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ลงพื้นที่ในทุกภาคเพื่อไปตรวจเยี่ยมว่าทางเราจะสามารถสนับสนุนอะไรในพื้นที่ได้บ้างในสถานการณ์ช่วงโควิด-19 และสถานการณ์ยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาในประเทศตามแนวชายแดน ซึ่งกองทัพบกส่วนกลางพร้อมที่ให้การสนับสนุนทุกอย่างให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชุดตรวจโควิด-19 หรือยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในการใช้สกัดกั้นพวกลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมายโดยเฉพาะยาเสพติด

พล.อ.ณรงค์พันธ์กล่าวอีกว่า ตนได้เน้นย้ำในเรื่องการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งก็เป็นวงรอบ ในปีนี้ทางกองทัพภาคที่ 4 ก็หนักมีอุทกภัยในหลายจังหวัด เช่น จ.นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง พัทลุง ซึ่งน้ำท่วมหนักในรอบ 30 ปี แต่เรายังคงทำหน้าที่ของทหารในการช่วยเหลือประชาชน รวมถึงชาวนาทั่วประเทศที่ทุกกองทัพภาคได้ลงไปช่วยเหลือชาวนนาที่อยากจน และชาวนาที่ไม่มีคนช่วยเหลือ หรือแม้แต่ครอบครัวพลทหารเองก็ให้กลับไปช่วยครอบครัวเกี่ยวข้าว เพราเป็นหน้าเกี่ยวข้าวพอดี โดยเฉพาะหน่วยใดที่มีขีดความสามารถในการสีข้าวได้โดยเฉพาะกองทะภาคที่ 2 มีความชำนาญในเรื่องนี้ ให้ช่วยรับซื้อหรือช่วยสีข้าวโดยไม่คิดมูลค่า หรือสีข้าวมาแล้วนำมาขายให้หน่วยทหารเพื่อนำไปให้น้องๆ พลทหารได้กิน

“สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในห่วงต่อไปทางภาคเหนือเป็นเรื่องของหมอกควัน ตอนนี้ได้ตั้งศูนย์ในการเฝ้าระวังเตรียมยุทโธปกรณ์ในเฝ้าระวัง ได้ให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อมทั้งขั้นปฏิบัติการ และการฟื้นฟู ที่สำคัญในช่วงหน้าหนาวคือเรื่องไฟไหม้ โดยเฉพาะชุมชนในกรุงเทพฯ อาจเกิดไฟไหม้ ทั้งไฟฟ้าลัดวงจร หรือการจุดธูปไหว้พระ หน่วยในกรุงเทพฯ คือกองทัพภาคที่ 1 จะต้องมีความเตรียมพร้อม


กำลังโหลดความคิดเห็น