“สิระ” เย้ยม็อบราษฎรไม่กล้าเผชิญหน้ากับโลกความจริง แนะสังคมมองให้ดีก่อม็อบหวังปฏิรูป หรือหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง

วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การประชุมกรรมาธิการในบ่ายวันนี้ได้มีการเชิญ 4 แกนนำราษฎร เช่น น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายอานนท์ นำภา หรือทนายอานนท์ มาชี้แจงต่อกรรมาธิการเป็นครั้งที่ 2 แต่ก็ได้รับการแจ้งจากนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ว่าทั้งหมดจะไม่มาร่วมประชุม ตนเห็นว่าการมาพูดคุยกันในครั้งนี้ไม่ใช่เกมการเมืองของฝ่ายใด แต่ในฐานะกรรมาธิการก็อยากจะเป็นเวทีกลางให้ทุกฝ่ายที่ขัดแย้งมีโอกาสได้พูดคุยทำความเข้าใจกัน ดีกว่าปล่อยให้เกิดการชุมนุมบนถนนและสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนส่วนมาก

“การปฏิเสธไม่เข้าร่วมการประชุมกรรมาธิการในวันนี้ ผมไม่ทราบว่านี่คือสัญญาณความขัดแย้งของบรรดาแกนนำ ที่อาจนำมาซึ่งจุดจบของม็อบหรือไม่ ที่หลายฝ่ายในม็อบเริ่มมีปัญหาทั้งเรื่องเงินทุนสนับสนุน ข้อเรียกร้องที่แตกต่างกัน และอีกหลายความขัดแย้งภายในม็อบ จึงเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมแกนนำเหล่านี้ถึงไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับโลกของความเป็นจริง ก็เพราะเมื่อเจอความจริงแล้วไม่สามารถชี้แจงได้ รวมถึงอาจจะมีการโยนความผิดให้กันเอง” นายสิระกล่าว

นายสิระกล่าวต่อว่า ในอีกแง่หนึ่งตนก็มองว่าการไม่กล้าเข้าร่วมกับกรรมาธิการก็เพราะมีบรรดาอีแอบที่อยู่ด้านหลังม็อบออกคำสั่งให้ไม่เข้าร่วม เพราะกลัวว่าความจริงจะถูกเปิดเผย ตนจึงอยากให้ประชาชนพิจารณาเองว่าข้อเรียกร้องให้มีการปฎิรูปของม็อบ แต่เมื่อมีโอกาสมาพูดคุยหาทางแก้ปัญหา แกนนำกลับไม่ทำ หรือข้อเรียกร้องเหล่านี้เป็นแค่ฉากหน้า แต่เบื้องหลังแฝงไว้ที่เรื่องผลประโยชน์และเงินตราของตนเองและพวกพ้องกันแน่ แต่ที่ตนรู้แน่ๆ คือ จากนี้แกนนำทุกคนจะต้องก้มหน้ารับกรรมที่ก่อเอาไว้อย่างแน่นอน