นายกฯ ลั่นกลาง ครม. มันเกินไปแล้วม็อบชูสัญลักษณ์ค้อน-เคียว วอน ปชช.เข้าใจรัฐบาลเปิดบริจาคน้ำท่วม หวังแสดงน้ำใจคนไทยร่วมกัน เล็งคุยคิงส์เกตปมเหมืองทองเลิกอนุญาโตตุลาการ ใช้วิธีเจรจาแทน ชวน ครม.ดูซีรีส์เกาหลีสตาร์ทอัพ ชูธรุกิจคนรุ่นใหม่
วันนี้ (8 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยก่อนเข้าวาระการประชุมได้มีการเปิดวีดิทัศน์ผลงานของกระทรวงกลาโหมในเรื่องของการจัดกำลังพลลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ โดยนายกฯ กล่าวถึงการเปิดรับบริจาคเงินในส่วนของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือสถานกาณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้เนื่องจากมีกระแสในโซเชียลมีเดียโจมตีรัฐบาลว่าเหตุใดต้องมาขอรับเงินบริจาค ซึ่งนายกฯ ยืนยันว่าไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่มีเงิน เรามีงบประมาณในการจัดการอยู่แล้ว แต่การบริจาคถือเป็นการแสดงน้ำใจร่วมกันของคนไทยที่ใครจะช่วยก็มาช่วย อยากให้มองว่าเป็นการสร้างความสามัคคีมากกว่า
ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่วาระการประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์โควิด-19 หลังจากที่ไปลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายในภาพรวมทั้งหมด ตั้งแต่มีผู้ลักลอบเข้ามาในประเทศ และทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยนายกฯ ระบุว่าประเทศไทยดีอยู่แล้ว แต่ต้องมาเสียเพราะคนกลุ่มเดียวที่ไม่มีความรับผิดชอบ เราจะต้องจัดการตามกฎหมาย และสั่งการให้นายอนุทินไปดูว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมา ในเรื่องของการป้องกันการข้ามแดนไปมา และบริหารจัดการช่องทางธรรมชาติ ไม่ให้มีการลักลอบเข้าประเทศ และขอให้นายอนุทินรีบรายงานการลงพื้นที่ให้ประชาชนรับรู้อย่างชัดเจน ตรงไปตรงมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังไม่มีกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวแบบบ่นๆ ถึงกรณีเพจเยาวชนปลดแอกได้ประกาศเปิดตัว RT MOVEMENT โดยมีสัญลักษณ์ตัวอักษร RT คล้ายรูปค้อนและเคียว สัญลักษณ์ของระบอบคอมมิวนิสต์ว่า “มันเกินไปแล้ว จะดำเนินการยังไง ก็ขอให้จัดการตามกฎหมาย” ขณะเดียวกัน ที่ประชุมวันนี้ไม่ได้มีการพูดถึงการกำหนดตัวบุคคลในส่วนของรัฐบาลที่จะไปร่วมในคณะกรรมการสมานฉันท์
นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงคดีเหมืองแร่ทองคำอัครา ระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัท คิงส์เกต ออสเตรเลีย ที่ยังไม่ได้ข้อยุติในขณะนี้ โดยนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ได้กล่าวว่า เรื่องนี้เราต้องทำอย่างระมัดระวังเนื่องจากจะถูกสภานำไปเป็นประเด็นโจมตี หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ทั้งนี้ มีรายงานว่าคดีดังกล่าวจะไม่ใช้กระบวนอนุญาโตตุลาการในการพิจารณาข้อขัดแย้ง แต่จะใช้วิธีการเจรจากับบริษัทคิงส์เกต ซึ่งมีข้อมูลว่ามีเหมืองหลายแห่งบุกรุกที่ป่า และเราสามารถใช้ประเด็นนี้ฟ้องคดีอาญาได้ จึงจะขอให้มีการพูดคุยเพื่อประนีประนอมกัน
อย่างไรก็ตาม ตอนท้ายของการประชุมมีการพูดถึงเรื่องการทำธุรกิจของคนรุ่นใหม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้แนะนำให้ ครม.ไปดูซีรีส์เกาหลีเรื่อง Start-Up (2002) พร้อมระบุว่า เป็นซีรีส์อันดับหนึ่งใน Netflix ที่น่าสนใจ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ และตนได้ดูจบแล้วจึงมาแนะนำ
