xs
xsm
sm
md
lg

อบจ.เชียงใหม่เดือด!! “แม้ว” ผวาถูกเทอ้อนหนุนเพื่อไทย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร และ บุญเลิศ บูรณุปกรณ์
เมืองไทย 360 องศา


อาจเป็นครั้งแรกๆ ที่ได้เห็น นายทักษิณ ชินวัตร กระโดดลงมาช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย เพราะแม้แต่การเลือกตั้ง ส.ส. ที่ถือว่าเป็นสนามการเลือกตั้งระดับชาติ แต่ก็แทบไม่เห็นเขาลงมาเกี่ยวข้อง หรือช่วยหาเสียงในแบบเปิดเผยแบบนี้มาก่อน

แต่ล่าสุด นายทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความเป็นจดหมายในเฟซบุ๊ก ออดอ้อนพี่น้องชาวเชียงใหม่ให้ช่วยกันสนับสนุนเลือก “นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร” ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสังเกตที่เขากระโดดลงแบบนี้ โดยเฉพาะในสนามเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาอีกมุมหนึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่า สนามนี้ “แพ้ไม่ได้” เพราะถือว่า “เดิมพันสูง” เพราะอย่างที่รู้กัน แม้ว่าจะเป็นสนามระดับท้องถิ่นภูธร แต่ก็มีผลกระทบในทางการเมืองตามมาหลายขยัก และสั่นทะเทือนไปถึงการเมืองระดับชาติในอนาคตแน่นอน
เพราะ เชียงใหม่เป็น “บ้านเกิด” ของ ทักษิณ ชินวัตร ในอดีตถือว่าเป็น “เมืองหลวง” ของพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงเป็นฐานมวลชนสำคัญอีกแห่งของ “คนเสื้อแดง” นอกเหนือจากจังหวัดสำคัญในภาคอีสาน แต่ในระยะหลังเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงในแบบมี “นัยสำคัญ” นั่นคือ หลังจากการเกิด คสช.และหลังจากการเข้าสู่อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมไปถึงมีการก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นมา
หากมองย้อนกลับไปเริ่มตั้งแต่มีการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุดที่มีนักการเมือง และ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยหลายคนในพื้นที่ภาคเหนือ รวมไปถึงในหลายจังหวัดในภาคอีสาน ที่ “แปรพักตร์” เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ และหลายคนก็เคยเป็น “ขุนพล” หรือ เคย “ลูกน้องใกล้ชิด” ของ ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวนี้มาก่อน จนส่งผลมาถึงการเลือกตั้งที่เป็นครั้งแรกที่ผลการเลือกตั้งออกมาแบบสูสี
แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง ได้ ส.ส.มากที่สุด แต่ก็ถือว่าไม่ได้ชนะขาด เหมือนเมื่อก่อนที่เคยมีการพูดว่า “ส่งเสาไฟฟ้าลงไปก็ชนะ” อะไรประมาณนั้น เป็นการสื่อให้เห็นถึงความนิยม แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป มิหนำซ้ำ ยังหักมุมให้พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านเป็นครั้งแรก และบทบาทในสภาและนอกสภา ยังไม่เอาไหน กลายเป็น “รองบ่อน” เดินตามเกมของพรรคขนาดเล็กเกิดใหม่อย่างอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่แปรสภาพมาเป็นพรรคก้าวไกล ที่กำหนดทิศทางโดยพวก ส.ส.เด็กๆ
จนล่าสุดเกิดความขัดแย้ง ส่อเกิดความระส่ำระสาย หลังจากที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้ยกทีมลาออกจากสมาชิกพรรค และเชื่อว่า หากไม่ติดในเรื่อง “สมาชิกภาพ ส.ส.” ที่ค้ำคออยู่ เชื่อว่า น่าจะยังมี ส.ส.และนักการเมืองระดับบิ๊กเนมอีกหลายคน ลาออกตามออกไป โดยเฉพาะพวก ส.ส.ในภาคอีสาน
ย้อนกลับมาโฟกัสที่สนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่อีกที อย่างที่รู้กันดีว่าเป็น “บ้านเกิด” ของ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นฐานเสียงสำคัญของเขาและครอบครัว และหากผู้สมัคร นายก อบจ.เชียงใหม่ ที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนเกิดพ่ายแพ้ ก็ย่อมส่งผลกระทบตามมาอย่างใหญ่หลวง เพราะทั้ง “เสียฟอร์ม” และในทางการเมืองถือว่า “ฐานเมืองหลวงแตกยับ” เป็นแน่
ขณะเดียวกัน เมื่อมาพิจารณากันถึงคู่แข่งฝ่ายตรงข้ามที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ นายทักษิณ ชินวัตร ต้องออกแรงเองแบบนี้ ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ซึ่งในอดีตก็ถือว่าเคยเป็น “คนกันเอง” มานาน และถือว่าอยู่ในสายของพรรคเพื่อไทยกับ “ชินวัตร” มานานแล้ว และเขาก็เป็นอดีตนายก อบจ.เชียงใหม่มานาน คนในตระกูลนี้ก็ถือว่าเป็น “ขาใหญ่” ในเชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย
แต่ในระยะหลังความสัมพันธ์มีหลายคนมองว่า “เริ่มห่างเหิน” กันไป ตั้งแต่ก่อนและหลังเลือกตั้ง ส.ส. ในตอนนั้นมีข่าวลือว่า “ทีมบูรณุปกรณ์” จะยกทีมมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็ไม่ปรากฏชื่อ ทั้งรายชื่อผู้สมัคร และสมาชิกพรรค จนเรื่องราวเงียบหายไป และมาถึงการเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงใหม่ ที่พรรคส่ง นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ชิงเก้าอี้ ไม่ใช่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ที่ลงในนามอิสระ จนเป็นที่จับตามอง
และที่สนามเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่นี่แหละ ที่ “เกิดเรื่อง” เกิดราวขึ้นมาหมาดๆ จากการที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้ขึ้นเวทีหาเสียงช่วย นายปกรณ์ และมีการพาดพิงไปถึงพรรคเพื่อไทย และคนในพรรคนั้นในทำนองว่า “เสือกไสทิ้งคนเก่าแก่” ที่ร่วมต่อสู้กันมา อะไรประมาณนี้ และต่อมาก็เกิดการตอบโต้กันกับ นายพิชัย นริพททะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่ง นายจตุพร ได้กล่าวโจมตีอย่างรุนแรง พร้อมท้ารบกับทุกคนในพรรคเพื่อไทย
การที่ ทักษิณ ชินวัตร ออกมาตัดพ้อว่า “มีนักการเมืองบางคนทิ้งผม” ไม่รู้ว่าหมายถึง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รวมไปถึงระดับบิ๊กเนมบางคนที่ออกไป เช่น นายโภคิน พลกุล หรือแม้แต่ นายวัฒนา เมืองสุข เป็นต้น หมายถึงพวกนี้หรือเปล่า รวมไปถึงการออกมา “ออดอ้อน” ขอคะแนนจากแม่ยกชาวเชียงใหม่แบบนี้ ถือว่าไม่ธรรมดา
อีกด้านหนึ่งแสดงให้เห็นว่า “สถานการณ์ไม่สู้ดี” ก็เป็นได้ เพราะต้องไม่ลืมว่า “ตระกูลบูรณุปกรณ์” ในพื้นที่ก็ใช่ย่อย และที่ผ่านมา ยังไม่รู้ว่าใครพึงพาใครกันแน่ ประกอบกับการที่พรรคเพื่อไทย ห่างหายจาก “อำนาจรัฐ” มานานนับสิบปี ทุกอย่างก็คงไม่อยู่ในสภาพเดิมแล้ว

ดังนั้น การที่ ทักษิณ ชินวัตร ลงทุนออกหน้ามาขอร้องให้ชาวเชียงใหม่ช่วยกันสนับสนุนผู้สมัครที่พรรคเพื่อไทย ให้ได้เป็นนายก อบจ.ครั้งนี้ ถือว่าออกมาเต็มตัว ทางหนึ่งอาจได้รับสัญญาณว่า อาจแพ้ให้กับนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตคนกันเองก็เป็นได้ เพราะหากพ่ายแพ้ถือว่าเสียหายหนักมาก เหมือนกับ “ฐานเมืองหลวงแตก” ก็ว่าได้
แต่งานนี้หากทุ่มเทขนาดนี้แล้วยังไม่สำเร็จก็ถือว่า “แม้ว จบเกม” หมดสภาพแล้วจริงๆ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น