นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวฯ นำกลุ่ม Expat สัมผัสเส้นทาง “วิถีคลอง วิถีไทย ตามรอยเสด็จคลองดำเนิน” กระตุ้นการท่องเที่ยวในกลุ่มศักยภาพสูง ยกระดับมาตรฐานท่องเที่ยวไทย กระจายรายได้สูงชุมชน เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ณ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มเอ็กซ์แพท (Expat) เดินทางท่องเที่ยว ณ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของกลุ่มเอ็กซ์แพต (Expat) ให้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการท่องเที่ยว องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยวมาเป็นกิจกรรมหลักในการดำเนินการ
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ รมว.กก.ได้นำกลุ่มเอ็กซ์แพตและสื่อมวลชนเดินทางเยี่ยมชมและทำกิจกรรมท่องเที่ยว ตามเส้นทาง “วิถีคลอง วิถีไทย ตามรอยเสด็จคลองดำเนิน” เพื่อสัมผัสเสน่ห์อันเป็นอัตลักษณ์ของวิถีชีวิตชาวคลองดำเนินสะดวก คลองขุดสมัยรัชกาลที่ ๔ ที่มีคลองสาขาย่อยกว่า 200 สาย วิถีเกษตร และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และเดินทางต่อโดยเรือหางยาวไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไปยังบ้านมหาดเล็กเจ๊กฮวด และนั่งเรือต่อไปยังตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก ตลาดน้ำดั้งเดิมแห่งแรกของประเทศไทย ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมห้องแถวไม้ไทยจีนโบราณที่มีเอกลักษณ์ มีอาหารพื้นถิ่นให้ได้ลิ้มรส จากนั้นชมนิทรรศการการส่งเสริมการใช้เรือไฟฟ้าเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยว และโครงการการท่องเที่ยวสีขาว ซึ่งดำเนินการโดยกรมการท่องเที่ยว
นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า “ด้วยนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในทุกด้านซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในการกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ บนพื้นฐานความสะอาด สะดวก ปลอดภัย เป็นธรรม และรักษาสิ่งแวดล้อมนั้น ทางกรมการท่องเที่ยวจึงได้ดำเนินการโครงการท่องเที่ยวสีขาว เพื่อส่งเสริม พัฒนา และสร้างคุณภาพให้กับกลุ่มธุรกิจบริการทั้งผู้ประกอบการและสถานประกอบการ ซึ่งถือเป็นกำลังหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้มีความแข็งแรงและเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่สัมผัสกับนักท่องเที่ยวโดยตรง เช่น แม่ค้าในพื้นที่ คนขับเรือ ผู้ให้บริการที่จอดรถ เป็นต้น ด้วยการยกระดับการให้บริการ และเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างสะดวก สะอาด ปลอดภัย และเป็นธรรม และส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยว (ท่องเที่ยวผ่านทัวร์)โดยบริษัทนำเที่ยวจะช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายในทุกด้าน ทั้งจัดหาและออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวแนวใหม่ ให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวทุกประเภท รวมถึงอำนวยความสะดวก การบริการต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวอย่างไร้กังวล ในครั้งนี้กลุ่มเอ็กซ์แพทได้ร่วมกิจกรรมล่องเรือค้นหา RC (Route Check) ที่สวนเกษตรแม่ทองหยิบ ที่นำศาสตร์พระราชาปรับเปลี่ยนวิถีเกษตรเคมีสู่เกษตรปลอดภัย เพลิดเพลินกับการถ่อเรือเที่ยวในแนว Adventure ด้วยการพายเรือ Sup Board ในแม่น้ำแม่กลอง และแนว Local Art ด้วยการสร้างสรรค์งานศิลปะเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นของจังหวัดราชบุรี โดยให้บริษัทนำเที่ยวเป็นผู้ดำเนินการเพื่อให้เห็นความพร้อมในการท่องเที่ยว แนวใหม่ที่สะดวกสบายจากการบริการของบริษัทนำเที่ยวที่ได้รับมาตรฐานจากกรมการท่องเที่ยว อีกทั้งยังมี การแนะนำการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบการท่องเที่ยวแนวใหม่ (Smart Tourism) ด้วยการเชิญชวนให้ผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอดำเนินสะดวก หันมาใช้ “เรือไฟฟ้า” เพื่อเป็นการลดมลภาวะ ลดมลพิษจากควันพิษ รวมถึงมลพิษ ทางเสียง ที่กระทบวิถีชีวิตริมน้ำ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตหลักของชุมชนดำเนินสะดวก ดังนั้น การใช้เรือไฟฟ้าจะเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างตลาดน้ำดำเนินสะดวกได้เป็นอย่างดี”
พร้อมกันนี้ รมว.กก.ยังได้มอบเสื้อสัญลักษณ์โครงการท่องเที่ยวสีขาวให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอดำเนินสะดวกที่ผ่านการอบรม จำนวน 110 ราย และมอบตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Healthy Administration : SHA แก่ผู้แทน 4 ชุมชน ได้แก่ ผู้แทนชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนวัดโชติทายการาม ผู้แทนชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้าน มหาดเล็กเจ๊กฮวด ผู้แทนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มฟื้นฟูตลาดน้ำดำเนินสะดวกปากคลองลัดพลีและ ผู้แทนวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวสวนเกษตรแม่ทองหยิบ ดำเนินสะดวก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่จะหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทย หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยว ให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจฐานรากลดความเหลื่อมล้ำ และนำไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน