“จิราพร” ซัดรัฐบาลไม่หยุดไล่ล่าผู้ชุมนุม เชื่อ “กก.สมานฉันท์” จะเป็นเพียงเครื่องมือซื้อเวลา “ภาควัต” สวด “บิ๊กตู่” ต้องเลิกยกหางตัวเอง ยอมรับตัวเองล้มเหลว ติงไม่ควรสร้างเงื่อนไขจับแกนนำม็อบ เหมือนสุมไฟทำมวลชนร่วมม็อบมากขึ้น
วันนี้ (1 ธ.ค. 63) น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีแนวคิดในการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อศึกษาหาทางออกของประเทศจากวิกฤตการเมืองว่า เป็นความพยายามที่จะทำให้รัฐสภาเป็นความหวังให้แก่ประชาชน และพรรคเพื่อไทยเองก็ต้องการเห็นความสมานฉันท์เกิดขึ้นเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ดี คณะกรรมการชุดนี้จะขับเคลื่อนได้นั้นขึ้นอยู่กับการให้ความร่วมมือของคู่ขัดแย้งหลักทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายผู้มีอำนาจที่ต้องเริ่มแสดงความจริงใจในการสร้างความสมานฉันท์ก่อน แต่ปรากฏว่าทุกวันนี้ยังมีการตั้งข้อหาและจับกุมคุมขังผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่การสร้างบรรยากาศที่จะนำไปสู่ความปรองดองเลยแม้แต่น้อย
“ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันสะสมมาจากการทำรัฐประหารในอดีต ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งต้องลาออกเพื่อให้เกิดบรรยากาศที่เอื้อต่อการสร้างความสมานฉันท์ พร้อมหยุดตั้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง รวมถึงพักโทษผู้ชุมนุมที่มีคดี เพื่อแสดงถึงความจริงใจในการสร้างความปรองดอง มิฉะนั้นการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ชุดดังกล่าวก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ และอาจถูกมองว่าเป็นเพียงเครื่องมือซื้อเวลาเท่านั้น” น.ส.จิราพรกล่าว
ด้านนายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎร 2563 ที่เกิดความวุ่นวายเมื่อวันที่ 25 พ.ย. หน้าธนาคารพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน ว่าขอตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ออกมาปกป้องดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม นอกจากนี้แล้วเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาแล้วตำรวจเร่งด่วนสรุปว่าเป็นการทะเลาะกันเอง ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ควรดำเนินการสอบสวนให้ทราบถึงเหตุที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ การดำเนินคดีต่อกลุ่มเยาวชนที่ส่วนใหญ่เป็นแกนนำกลุ่มคณะราษฎร เพื่อหวังให้ยุติบทบาทและลดทอนกำลังของกลุ่มมวลชน ผลที่ออกมาคือไม่เกิดผล ยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้มวลชนมากขึ้น เพราะทุกครั้งที่มีการจับกุมแกนนำก็จะมีมวลชนเข้ามาร่วมกิจกรรมมากขึ้น รัฐบาลต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้มวลชนมากขึ้น
นายภาควัตกล่าวด้วยว่า อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ เลิกคิดว่าตัวเองคือคนที่ดีที่สุด ควรลดทิฐิตัวเองลง รวมทั้งทบทวนบทเรียนที่ผ่านมาว่าสิ่งที่รัฐบาลปฏิบัติกับมวลชน การใช้กฎหมายรวมทั้งการใช้ความรุนแรง ทั้งการฉีดสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้มาร่วมชุมนุม ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บไปหลายคน ไม่เกิดประโยชน์อะไร รัฐบาลควรใช้วิธีการเจรจาดีกว่าใช้กฎหมาย เพราะการใช้ไม้แข็งจะทำให้เกิดการต่อต้านมากขึ้น
“การตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อหาทางออกจากปัญหาประเทศในขณะนี้จะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยหาก พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่รู้ตัวเองว่าคือปัญหาของคนในชาติ ดังนั้น ประเทศจะสงบหรือวุ่นวายไม่รู้จบขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์คนเดียว เพราะตลอด 6 ปีที่ผ่านมาการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวทุกด้านทำประชาชนใช้ชีวิตลำบาก” นายภาควัตกล่าว
