โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เผย ปชป.ชี้ภารกิจสำเร็จ หลังรัฐธรรมนูญผ่านวาระแรก เตรียมเสนอรับฟังเสียงประชาชน-นำส่วนที่ดีของไอลอว์เข้าพิจารณาในชั้น กมธ.ด้วย
วันนี้ (19 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงร่างรัฐธรรมนูญที่ได้ผ่านการลงมติจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวาระที่ 1 จำนวน 2 ร่าง ไปเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ว่า ต้องถือว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ประกาศไว้ชัดตั้งแต่เริ่มแรกเมื่อครั้งร่วมรัฐบาล คือ การแก้มาตรา 256 และต่อมามีการเพิ่มเติมให้มีการจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถือว่าประสบความสำเร็จมาอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญ ต้องขอขอบคุณสมาชิกรัฐสภา แต่ภารกิจที่สำคัญนี้คงไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เพราะทุกฝ่ายจำเป็นที่จะต้องแสวงหาความเห็นชอบร่วมกันในวาระที่ส 2 ในชั้นคณะกรรมาธิการฯ และยังมีวาระที่ส 3 ที่เสียงของสมาชิกวุฒิสภา 1 ใน 3 ที่ต้องร่วมกันคิดกันทำให้สำเร็จ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นของฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล หรือของ ส.ว. แต่เราจะต้องทำให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนและประเทศ ภายใต้การปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นายราเมศกล่าวต่อว่า การหาความเห็นพ้องจากประชาชนก็เป็นส่วนสำคัญ ในชั้นกรรมาธิการฯ นั้น ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะมีการเสนอให้รับฟังเสียงจากประชาชนให้มากที่สุดเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม เพราะจะมีผลต่อการทำประชามติที่จะเป็นไปในทิศทางที่ดีให้ประชาชนได้รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนร่างของภาคประชาชน หรือไอลอว์นั้น ตนไม่อยากให้มองว่าตกไปทั้งหมด ความตั้งใจทำในส่วนที่ดีที่เป็นประโยชน์ก็มีความจำเป็นที่จะต้องนำมาประกอบการพิจารณาในทุกขั้นตอนการพิจารณา อาจมีบางประเด็นที่เห็นไม่ตรงกัน แต่ส่วนไหนรับได้ส่วนไหนรับไม่ได้ก็ควรหยิบยกมาพูดคุยกันก็จะเกิดประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ใน 11 ประเด็นของร่างไอลอว์มีบางประเด็นที่น่าสนใจและควรหยิบยกมาพูดคุยกันในชั้นกรรมาธิการฯ เช่น กรณีของท้องถิ่น การแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น และกระจายอำนาจอย่างแท้จริง นอกจากนั้นยังอยากให้กรรมาธิการฯ นำผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการฯ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธาน มาประกอบการพิจารณาด้วย