“ประยุทธ์” ตัดริบบิ้นเปิดงาน “สวัสดีข้าวสาร” เปิดตัวถนนโฉมใหม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้น ศก. ตื้นตันจนพูดไม่ออก ได้เห็นรอยยิ้มทุกคน ย้ำไทยมีประวัติศาสตร์มายาวนานบนพื้นฐาน 3 เสาหลัก ขออย่าตัดทอน ร่วมสืบสานต่อยอดสถาบัน
วันนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 30 ต.ค. ที่ถนนข้าวสาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดงาน “สวัสดีข้าวสาร” เพื่อเปิดตัวถนนข้าวสารโฉมใหม่ และส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามนโยบายของรัฐบาล โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเขตพระนคร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน พร้อมด้วย ประชาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงาน ซึ่งทันทีที่นายกฯ มาถึงได้ทำการกดปุ่ม เปิดฝาถังข้าวสาร เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของถนนข้าวสารแห่งนี้ และนายกฯ ได้เดินทักทายประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งมีประชาชนบางส่วนให้กำลังใจ รวมถึงนายกฯ ได้ทักทายนักศึกษาที่มาเดินภายในงาน โดยได้เข้าไปสอบถามว่าเรียนที่ไหน พร้อมกล่าวว่า “ช่วยๆ กันนะ” จากนั้นได้ชมการแสดงดนตรีสดจากวงคันทรีที่ขอมอบบทเพลง “You are my sunshine” ให้กับนายกฯ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้มีหลายส่วนมาร่วมกันทั้งในส่วนของรัฐบาล พรรคการเมือง และตัวแทนหลายภาคส่วน ซึ่งทุกคนคือคนไทยมีอะไรดีๆ เรามาร่วมกันได้ จึงขอขอบคุณที่ร่วมกันทำสิ่งดีๆ ในให้เกิดขึ้น โดยเฉพะในช่วงโควิดนี้ที่เราต้องมองหาศักยภาพมาขับเคลื่อนก่อนเหมือนถนนข้าวสาร รวมทั้งเรามีมาตรการผ่อนคลายเรื่อยๆ ซึ่งย้ำว่า วันนี้เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อไป จึงขอให้ช่วยกันในมาตรการด้านสุขภาพและการจับจ่ายใช้สอย โดยต้องมีเหตุมีผลมีความพอประมาณ มีภูมิคุ้มกันที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่เราร่วมมือมาตลอด ที่ประเทศไทยร่วมมือกันมายาวนานตลอด 800 ปีไม่ใช่เพิ่งมี และยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน และต่อไปอีกหลายร้อยปี บนพื้นฐาน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหลักชัยของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้โลกของเรามีความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งเทคโนโลยีดิจิทัล อากาศเปลี่ยนแปลง ไม่กี่วันนี้ก็จะมีพายุเข้ามา ซึ่งอาเซียนเป็นดินแดนที่ดีที่สุด และเราไม่เคยเจอพายุรุนแรงเหมือนต่างประเทศ ทั้งนี้ เราต้องเข้มแข็งปรับเปลี่ยนอะไรบ้างให้สอดคล้องโลกยุคใหม่นิวนอร์มัล ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกด้านต่างๆ วันนี้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ถนนข้าวสารเป็นถนนที่มีชื่อเสียงมาตลอดยาวนาน จึงขอขอบคุณที่ปรับปรุงให้มีความสวยงามแปลกหูแปลกตาขึ้น ซึ่งเราจำเป็นจัดระเบียและวันนี้เมื่อสถานการณ์ค่อยๆ คลี่คลายแล้วก็ต้องดึงดูดการท่องเที่ยว รวมถึงการใช้จ่ายในระบบมากขึ้น รัฐบาลจึงต้องปรับงบประมาณลงมาส่วนหนึ่ง เพื่อให้ปรับหมุนเวียนในระบบ ไม่ใช่ว่านายกฯ ช่วยคนรวย แต่ทุกอย่างเป็นห่วงโซ่
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่ห่วงที่สุดคือ เศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย อย่าเรียกว่าจน ซึ่งผูมีมีรายได้น้อย เราก็ต้องพัฒนาต่อไป อัปเกรดคนเหล่านี้ให้มีชีวิตที่เข้มแข็งและพอเพียง เพราะถ้าใช้จ่ายไม่ระวังก็เป็นปัญหาได้ ย้ำว่าตนเห็นใจผู้มีรายได้น้อยและไม่เคยดูถูกใครอยู่แล้ว
“ไม่รู้จะพูดอะไรมันตื้นตันพอมาเจอสิ่งดีๆ ผมมีความสุข มีความสุขได้พบปะพวกเรา ได้ส่งรอยยิ้มให้กันนี่คือประเทศไทย นี่คือศักยภาพของประเทศไทย มีรอยยิ้ม มีอาหารอร่อยและธรรมชาติที่สวยงาม เราอย่าทำลายสามสิ่ง นี้ เราแตกตแยกกันไม่ได้แตกต่างกันได้ และวันนี้ก็เตรียมพร้อมเปิดประเทศในช่วงต่อไป รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งยวดแก้ ปัญหาเศรษฐกิจซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ พร้อมการป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งหลายหลายประเทศพยายามทำแบบเราแต่ไม่ทัน แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญที่สุดคือการจับจ่ายใช้สอยมีเม็ดเงินในระบบ จึงต้องจัดกิจกรรมกระตุ้น เศรษฐกิจในประเทศและเตรียมความพร้อมเปิดประเทศที่จะมีการคลายล็อคและทยอยทำไปเรื่อยๆ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญเราต้องสร้างสตอรี่ เรื่องราว สร้างประวัติศาสตร์สิ่งที่ดีให้จดจำหลายประเทศไม่ประวัติศาสตร์ยาวนานอย่างเรา แต่เขาเขียนประวัติศาสตร์ได้เป็นหน้าๆ พยายามหาส่วนดีๆ ขณะที่เรามีประวัติศาสตร์เป็นเล่มๆแต่ก็พยายามตัดทอนออก ตนว่ามันไม่ใช่ ต้องร่วมกันเดินหน้าอนาคต ประวัติศาสตร์มีไว้ให้เป็นบทเรียน ส่วนที่ดีเราก็ทำส่วนที่ไม่ดีก็อย่าทำ เพื่อให้วันนี้มีความพร้อมในการเดินหน้าไปสู่อนาคตให้กับลูกหลาน ซึ่งวันนี้อยากให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์คนไม่รู้จะไปไหนก็ให้มาที่ถนนข้าวสารหรือที่อื่นก็ได้ที่สามารถไปได้ แต่หลายพื้นที่อาจไปไม่ได้ในตอนนี้ก็ขอร้องก็แล้วกันเปิดพื้นที่ให้คนได้สัญจรไปมาได้มีการจราจรที่สะดวกสบาย ปกติรถมันก็ติดอยู่แล้วดังนั้นขอให้ช่วยกัน นี่คือประเทศไทยของใครของตนคนเดียวหรือไม่ มันเป็นแผ่นดินไทยของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล นักการเมือง ข้าราชการ บ้านเมืองนี้เป็นของเราแผ่นดินนี้เป็นของเรา เกิดที่นี่หลายคนหลายท่านต้องตายไปตามวัฏจักรแห่งชีวิตตายบนแผ่นดินนี้ เกิดและตายบนแผ่นดินนี้ด้วยความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นั้นคือหลักนำของกองทัพ สถาบันไม่ใช่แค่วันนี้ สถาบันคือสถาบันพระมหากษัตริย์ มีมายาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นั้นคือสิ่งที่เราต้องสืบสาน ตามพระปฐมบรมราชโองการให้ได้ ที่สำคัญคือการสืบสาน รักษา ต่อยอด ไม่ใช่ทำลายทุกอย่างขอฝากไว้แค่นี้ และขอให้ยิ้มจากหัวใจเป็นรอยยิ้มที่คนไทยมีมาแต่อดีตและจะต้องมีต่อไปในอนาคต
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินเยี่ยมชมบูธสินค้าภายในงานและทักทายผู้ที่มาร่วมงานและพ่อค้าแม่ค้า โดยมีประชาชนส่วนหนึ่งได้ตะโกนให้กำลังใจว่า “นายกฯสู้ๆ”
อย่างไรก็ตาม ภายในงานดังกล่าวมีกิจกรรมมากมายที่เหมาะสมกับทุกช่วงวัย ทั้งเด็กนักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน รวมถึงผู้สูงอายุ อาทิ การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยประยุกต์ การประกวดวาดภาพ ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หัวข้อ “The Modern Thainess ณ ถนนข้าวสาร” ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท นิทรรศการประวัติความเป็นมาของถนนข้าวสาร กิจกรรม workshop สารศิลป์ อาทิ การวาดลายน้ำบนผ้า ปั้นจิ๋ว การออกร้านจำหน่ายผลงานศิลปะของนักเรียนนักศึกษา ฯลฯ รวมทั้งการออกร้านค้า ซึ่งเป็นการนำผู้ค้าเดิมที่เคยขึ้นทะเบียนไว้กับทางเขตพระนคร ร่วมกับร้านค้าเฉพาะกิจรวมกว่า 240 ร้านค้า ซึ่งสินค้าจะมีความหลากหลาย ทั้งอาหารคาว-หวาน สินค้า OTOP สินค้าเลื่องชื่อของกรุงเทพมหานคร ฯลฯ ให้ได้ชิม ช้อปกัน
ขณะที่ในวันที่ 31 ต.ค. ซึ่งเป็นวันฮัลโลวีน ได้กำหนดธีมงานในรูปแบบวันฮัลโลวีน ซึ่งจะมีการประกวดชุดวันฮัลโลวีนชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 30,000 บาท โดยผู้เข้าร่วมการประกวดสามารถลงทะเบียนที่งานได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. และปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตศิลปิน Whal & Dolph ในเวลา 22.30-23.30 น.
สำหรับด้านความปลอดภัย ได้เตรียมการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการตั้งจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าทุกจุด เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิ รวมทั้งมีการตรวจคัดกรองอาวุธและของมีคม และการดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรโดยรอบให้ผู้ที่จะมาท่องเที่ยวและเลือกซื้อสินค้าบริเวณถนนข้าวสารอีกด้วย
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้เชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมงาน “สวัสดีข้าวสาร” ระหว่างวันที่ 30-31 ต.ค. 63 ตั้งแต่เวลา 14.00-24.00 น. โดยหลังจากนี้ นักท่องเที่ยวและประชาชนสามารถมาเยี่ยมชมบรรยากาศและท่องเที่ยวถนนข้าวสารโฉมใหม่ได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00-24.00 น.