วันนี้ (30 ต.ค.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ให้สัมภาษณ์ ณ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า สิ่งหนึ่งที่ตนพยายามผลักดันและขับเคลื่อนมาโดยตลอด คือ การแก้ไขปัญหาขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมาถือว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้ถุงพลาสติก กว่า 25,284 ล้านใบ คิดเป็น 228,820 ตัน อันดับประเทศที่มีปัญหาด้านการจัดการขยะพลาสติกในทะเลดีขึ้น จากอันดับที่ 6 เป็นอันดับที่ 10 นอกจากนี้ยังมีการยกเลิกการใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่มได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ที่ผ่านมานับว่าพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการจัดการขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อมด้วยดีมาโดยตลอด
นายวราวุธกล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากฝากย้ำเกี่ยวกับประเพณีลอยกระทงที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 31 ต.ค. 63 ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลสถิติปริมาณกระทงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ย้อนหลัง 8 ปี พบว่า ปริมาณกระทงมีแนวโน้มลดลง ปริมาณกระทงที่ทำจากโฟมก็มีแนวโน้มลดเช่นกัน ในทางกลับกัน กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติมีจำนวนมากขึ้น เมื่อเทียบปริมาณกระทงระหว่างปี 2561 และปี 2562 ปริมาณกระทงภาพรวมลดลงกว่า 339,000 ใบ หรือกว่า 40.33 เปอร์เซ็นต์ และมีการใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้มิได้สะท้อนว่าคนไทยให้ความสำคัญต่อประเพณีไทยน้อยลง แต่สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะจากสถิติจำนวนพี่น้องประชาชนที่ลอยกระทงมิได้ลดจำนวนลงแต่อย่างใด
“ประเพณีลอยกระทง เป็นสิ่งที่คนไทยยึดถือและส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เราควรภูมิใจในการสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามที่เป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย หากแต่จากนี้ไปเราคงต้องสืบทอดประเพณีที่งดงามนี้ให้ดำรงอยู่ควบคู่กับสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์จากรุ่นสู่รุ่นต่อไป” นายวราวุธกล่าว
ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส.กล่าวเสริมว่า ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพยายามรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้ตระหนักและให้ความสำคัญต่อปัญหาขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ซึ่งได้รับการตอบรับและความร่วมมือจากประชาชน จิตอาสา และหน่วยงานต่างๆ เป็นอย่างดี สำหรับในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้ อยากฝากถึงที่น้องประชาชนทุกคนร่วมกันรักษาประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างสมดุลและสมบูรณ์
นายจตุพรกล่าวอีกว่า สำหรับปี 2563 ทางกรุงเทพฯ ได้เตรียมพื้นที่สำหรับลอยกระทงไว้บริเวณท่าน้ำหลายพื้นที่ เช่น วัดโพธิ์, วัดอรุณ, วัดระฆัง, วัดกัลยาณมิตร, สุขสยาม ณ ไอคอนสยาม เป็นต้น ทั้งนี้ ในส่วนของหน่วยงานในสังกัดกระทรวง ทส. ตนได้กำชับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในบริเวณที่เป็นจุดลอยกระทงที่เป็นพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยงานทั้งสองให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและให้คำแนะนำในการใช้วัสดุจากธรรมชาติไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมมาเป็นกระทงด้วย
ส่วนทางนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวในเรื่องนี้ว่า พื้นที่ทะเลคือจุดสุดท้าย สำหรับกระทงตกค้างที่ไม่ถูกจัดเก็บซึ่งจะกลายเป็นขยะในทะเล แต่หากเป็นกระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติก็อาจจะย่อยสลายไปตามกาลเวลา หากเป็นโฟมหรือพลาสติกก็จะคงตกค้างอยู่ในทะเลนับร้อยปี ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและสัตว์ทะเลอย่างเป็นลูกโซ่ ตนขอให้ทุกคนช่วยกันรณรงค์และร่วมกันแก้ไขเพื่อสมดุลของระบบนิเวศให้คงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป