วันนี้ (28 ต.ค.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน.ได้แถลงว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศฉบับที่ 2 เกี่ยวเนื่องกับพายุลูกใหม่ พายุใต้ฝุ่น “โมลาเบ” (พายุระดับ 5) ซึ่งจะมีผลกระทบตั้งแต่ วันที่ 28-30 ต.ค. 2563 ส่งผลทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ มีฝนตกหนักกับมีลมแรง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก และได้คาดการณ์ว่าอาจมีความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็น กำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน รวมทั้งด้านตะวันออก และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นและมีแรงลม และจะมีฝนตกบางแห่งนั้น
สถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบทำให้เกิดภัยหนาวอย่างฉับพลันในบริเวณกว้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน.มีความห่วงใยต่อประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากภัยหนาว จึงได้สั่งการและกำชับให้เตรียมการรับมือกับภัยหนาวในครั้งนี้ โดยมอบหมายให้ กอ.รมน.ปฏิบัติการเชิงรุก
โดยติดตามสถานการณ์ภัยหนาวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประเมินพื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ประสบภัยหนาวซ้ำซาก และพื้นที่เป้าหมายพร้อมให้หน่วยงาน กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด ลงพื้นที่ประสานและเสริมการปฏิบัติกับหน่วยงาน ทั้ง ปภ.จังหวัด,องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ตั้งแต่ก่อนเกิดภัยหนาว อาทิ การประสานแผนเตรียมการป้องกัน เพื่อให้มีเวลาและทรัพยากรเพียงพอในการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบในการจัดเสื้อกันหนาว, ผ้าห่ม, อาหาร, ยารักษาโรค และนำทีมแพทย์เข้าตรวจรักษา เป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาวในครั้งนี้
กอ.รมน.พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการ ระดมทรัพยากรทั้งปวง จากหน่วยทหาร ภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าสู่พื้นที่ภัยหนาว เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย สามารถปฏิบัติการช่วยเหลือด้วยความรวดเร็ว และทั่วถึงทุกพื้นที่ ถือว่า กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัดจะเป็นพลังที่สำคัญส่วนหนึ่งของทุกภาคส่วน ที่จะเข้ามาช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในทุกๆ ด้านซึ่งจะทำให้สามารถก้าวข้ามวิกฤตจากปัญหาต่างๆ ไปด้วยกัน
ทั้งนี้ เหล่าพสกนิกรปวงชนชาวไทย ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ได้พระราชทานความช่วยเหลือในด้านต่างๆ อีกทั้งได้นำสิ่งของพระราชทานมาแจกจ่ายเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้