ปธ.กกต.คาดลงมติดำเนินคดีอาญา หน.-กก.บห.อนาคตใหม่ สัปดาห์หน้า ยันต้องศึกษาโดยละเอียด ย้ำกรณี “สุรพล” พิจารณาตามหน้าที่ ไม่ตอบโต้น้อมรับความเห็นต่าง
วันนี้ (20 ต.ค.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาดำเนินคดีอาญาต่ออดีตหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคจากเหตุพรรคกู้เงินหัวหน้าพรรคว่า ขณะนี้สำนวนได้มาถึง กกต.แล้ว อยู่ระหว่างพิจารณา คาดว่าจะสามารถลงมติในเร็วๆ นี้ หรือถ้าสัปดาห์หน้าสามารถลงมติได้ก็จะลงมติ การพิจารณาจำเป็นต้องใช้เวลาเนื่องจากต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะดำเนินคดีต่อไปหรือไม่ หรือดำเนินคดีในด้านใด และใครบ้าง ทั้งนี้ ยืนยันว่าพยานหลักฐานทางเจ้าหน้าของ กกต.ที่มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนได้ดำเนินการครบถ้วนแล้ว โดยเรื่องนี้ กกต.จะต้องศึกษาโดยละเอียดก่อนที่จะลงมติ
เมื่อถามว่าหาก กกต.ลงมติแล้วกระบวนการหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร นายอิทธิพรกล่าวว่า จะเป็นการดำเนินคดีอาญาซึ่งก็จะเหมือนกับคดีที่ผ่านๆ มาที่พอ กกต.มีมติ เจ้าหน้าที่ก็ไปร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนกรณีนายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ทวงความรับผิดชอบ กกต.และขอให้คืนสิทธิ ส.ส.หลังศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งยกคำร้องที่ กกต.ขอให้ศาลฯสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครนายสุรพลและให้ชดใช้ค่าเสียหายในการเลือกตั้ง ประธาน กกต.ยืนยันว่ากรณีดังกล่าว กกต.พิจารณาตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายทุกประการ ซึ่งในคำพิพากษาของศาล การดำเนินการและขั้นตอนของ กกต.ก็ไม่พบว่ามีอะไรบกพร่อง จึงไม่มีเรื่องที่ต้องทำต่อ เพียงแต่มีประเด็นในเรื่องของเงินอุดหนุนพรรคการเมืองซึ่งก่อนหน้านี้ทาง กกต.ได้หักเงินที่พรรคเพื่อไทยได้รับจัดสรรจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองเป็นค่าชดใช้ในการจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่เมื่อศาลพิพากษายกคำร้องเราก็จะคืนเงินจำนวน 9 ล้านบาทให้กับพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม ในประเด็นของการคืนสิทธิ ส.ส.และข้อสงสัยต่างๆ จะมอบหมายให้สำนักงานเป็นผู้ชี้แจง ขอย้ำว่าทาง กกต.ได้พยายามทำทุกอย่างตามกรอบอำนาจหน้าที่ หากจะมีการยื่นฟ้องร้องต่อ กกต.ก็เป็นการตัดสินใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง กกต.ไม่ได้ปกป้องตัวเอง ซึ่งเมื่อมีการเห็นต่างก็เป็นสิทธิเสรีภาพที่จะดำเนินการ เราจะไม่โต้ตอบเพราะต้องน้อมรับความเห็นต่าง
