“เรืองไกร” สบช่องเตรียมร้องนายกฯ ปรับ “นิพนธ์” พ้น ครม.ชี้เข้าข่าย ม.160 (4) ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ดักที่ ขรก.สั่งย้ายทั้งที่ยังไม่โดนชี้มูล นิ่งเฉยถือว่าขาดภาวะผู้นำ
วันนี้ (11 ต.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า จากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.แถลงข่าวชี้มูลความผิดนายนิพน์ บุญญามณี สมัยดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลานั้น มติดังกล่าวจึงส่งผลถึงตำแหน่ง รมช.มหาดไทยด้วย เพราะคุณสมบัติรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) จะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ กรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลจึงเข้าข่ายตามมาตรา 160 (4) แต่นายนิพนธ์ไม่ได้พิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากตำแหน่ง รมช. แตกต่างจากกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยออกมาอ้างถึงกรณีนายวิทยา แก้วภราดัย หรือนายวิฑูรย์ นามบุตร เคยลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อขอให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบเรื่องนาฬิกาหรู และกรณีอื่นก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เคยใช้มาตรา 44 ปรับย้ายข้าราชการมามากมาย ทั้งที่ยังไม่โดนชี้มูลความผิด
“ดังนั้น กรณีนายนิพนธ์จึงแปลกใจที่บิ๊กตู่นิ่งเฉย หรืออาจเข้าข่ายปล่อยปละละเลยก็ว่าได้ เพราะไม่เห็นการดำเนินการใดๆ จากนายกฯ คนนี้ และท่านเพิ่งให้สัมภาษณ์ว่ามีอะไรก็ให้บอกมา ด้วยเหตุนี้จึงต้องไปยื่นหนังสือย้ำเตือนบิ๊กตู่ว่าเคยปฏิบัติมาอย่างไร แล้วทำไมกรณีนายนิพนธ์จึงไม่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น กระซิบให้ลาออก หรือปรับออกจาก ครม. ดังนั้น ในวันที่ 12 ต.ค. เวลา 10.30 น. ผมจะไปยื่นหนังสือขอให้นายกฯ ดำเนินการให้นายนิพนธ์ลาออกหรือปรับออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย แต่หากไม่กล้าดำเนินการใดๆ ผมจะถือว่าบิ๊กตู่ขาดภาวะผู้นำแล้ว ก็จะขอเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกหรือยุบสภาแทนก็แล้วกัน” นายเรืองไกรกล่าว