“สนธิญา” ร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม 3 ส.ส. “มงคลกิตติ์-พีระวิทย์-ณัฐชา” ร่วมชุมนุมชู 3 นิ้ว “มธ.-สนามหลวง” เตรียมเก็บข้อมูลชุมนุม 14 ต.ค.เพิ่ม หากทำอีกร้องอีก
วันนี้ (6 ต.ค.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรม นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม และนายณัฐชา บุญชัยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ที่ได้เดินทางไปร่วมการชุมนุมทางการเมืองพร้อม ชู 3 นิ้ว ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเห็นว่าการชุมนุมในวันนั้นขัดต่อระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขัดต่อรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา โดยเฉพาะมาตรา 114 ที่ระบุเกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนเป็นหลัก และเป็นการชุมนุมที่ไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ เป็นการชุมนุมที่คุกคามละเมิดสถาบัน มีการบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ มีการตัดรั้วเข้าไปในมหาวิทยาลัย ซึ่ง 3 ส.ส.น่าจะรู้เนื้อหาการชุมนุมอยู่แล้ว ตนจึงได้มายื่นเพื่อให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรมของ ส.ส.ทั้ง 3 คน ที่กระทำขัดต่อหลักจริยธรรมข้อ 5 ,6 ,7, 8 ,9 และ 10 โดยเฉพาะข้อ 5 จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการจงรักภักดีและพิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ และขอให้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องไปยัง กกต. ให้สอบสวนหาข้อเท็จ รวมทั้งส่งเรื่องให้ศาลฎีกา ทั้งนี้หากศาลรับเรื่องไว้ ส.ส.ทั้ง 3 คนจะต้องยุติการปฎิบัติหน้าที่
“การชุมนุมเป็นการจาบจ้วงสถาบันรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จึงสรุปได้ว่าเป็นการชุมนุมเถื่อน เป็นการชุมนุมเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ในฐานะที่เป็น ส.ส. สมาชิกรัฐสภา ก็ต้องปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติมากที่สุด จึงฝากให้ ส.ส.ที่เข้ามาโดยเฉพาะ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่ไม่ได้ดูกฎหมายให้ละเอียด ว่าจะมีปัญหากับตัวท่านเอง”
ส่วนที่ ส.ส.อ้างว่าไปรับฟังความเห็นประชาชน นายสนธิญากล่าวว่า การเป็น ส.ส.สามารถเข้าไปได้ เป็นเรื่องของเสรีภาพ แต่การชุมนุมในสถานที่ตรงนั้นไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย ดังนั้นใครก็ตามที่เข้าไปถือว่าเป็นสนับสนุนการชุมนุมเถื่อน และการเป็น ส.ส.จะต้องไม่อยู่ภายใต้อาณัติหรือการครอบงำใดๆ และการทำหน้าที่ต้องอยู่ภายใต้ผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก การจะไปรับข้อเสนอก็สามารถนัดมาที่รัฐสภาได้ แต่การอ้างว่าไปรับข้อเสนอแล้วชูมือสัญลักษณ์การชุมนุมมันแสดงให้เป็นว่ากำลังฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นการชุมนุมที่บุกรุกสถานที่ราชการ และทางตำรวจก็ได้แถลงยืนยันว่าการชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย จาบจ้วงสถาบัน ที่มีผู้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีตามมาตรา 112 ที่ สน.ชนะสงคราม
“การที่คุณเข้าไปแล้ว แสดงสัญลักษณ์ชัดเจนแล้ว มีการลงเฟซบุ๊ก ก็ก้าวก่ายเข้าไปถึงจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ ป.ป.ช.ต้องวินิจฉัยชัดเจน” นายสนธิญากล่าว และว่า ในการชุมนุมวันที่ 14 ต.ค.นี้ ถ้า 3 ส.ส.ไปร่วมชุมนุมอีก และถ้าไปแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว รวมทั้ง ส.ส.คนอื่นๆ และโพสต์ทางเฟซบุ๊ก ตนก็จะรวบรวมมาร้อง ป.ป.ช.อีก เพราะเห็นว่าการชุมนุมไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายทุกฉบับ