พล.อ.ประวิตร ชื่นชมผลงาน ดีอีเอส IMD ประกาศไทยพัฒนาขึ้น ประชุม คกก.นโยบายอวกาศแห่งชาติ สั่งเร่งผลักดันโครงการ มุ่งประโยชน์สาธารณะ ปชช.เข้าถึงได้ทุกระดับ ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริม ศก.-สังคม-ความมั่นคง
วันนี้ (2 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2563 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
ที่ประชุมได้รับทราบประกาศ เมื่อ 1 ต.ค. 63 โดยสถาบันการจัดการนานาชาติ (International Institute For Management Development : IMD) ถึงผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของเขตเศรษฐกิจทั่วโลก ประจำปี 2563 ซึ่งไทยได้รับการจัดอันดับให้สูงขึ้นกว่าเดิม 1 อันดับ อยู่ที่อันดับ 39 จาก 63 ประเทศ ซึ่งดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความสำเร็จในการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศไทย และรับทราบ ผลการจัดทำนโยบาย และแผนการดำเนินการเฝ้าระวัง และบริหารจัดการ การจราจรทางอากาศ (Space Situational Awareness and Space Traffic Management) ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำนโยบาย และแผนการเฝ้าระวัง และการบริหารจัดการ การจราจรทางอวกาศด้านปฏิบัติการ และด้านวิชาการ และเครือข่าย พร้อมจัดตั้งชุดปฏิบัติการ ติดตามเฝ้าระวังและบริหารจัดการ การจราจรทางอากาศ ทั้งนี้คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบ (ร่าง) พ.ร.บ.กิจการอวกาศ พ.ศ. ... เพื่อนำไปสู่การสร้างและส่งเสริมเศรษฐกิจอวกาศ ให้มีผลบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทั้งด้านเทคโนโลยี และวิทยาการอวกาศ การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงด้านการพัฒนากิจการอวกาศเชิงพาณิชย์ และความมั่นคงปลอดภัย นอกจากนั้นยังมีด้านที่เกี่ยวกับวัตถุอวกาศ ได้แก่การค้นหา และการส่งคืน หรือยึดไว้ให้อยู่ในอำนาจของผู้แทนรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากล ตามพันธกรณีระหว่างประเทศ
พล.อ.ประวิตรได้กล่าวชื่นชมดีอีเอสที่ได้ดำเนินงานจนได้รับการจัดอันดับจาก IMD ที่ดีขึ้น และขอให้รักษามาตรฐานและมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป พร้อมกำชับให้คณะกรรมการฯ และดีอีเอส ร่วมกันกำกับติดตาม และผลักดันการจัดทำนโยบายด้านกิจการอวกาศ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องบูรณาการทำงาน คำนึงถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ในนโยบายของรัฐบาล มุ่งให้เกิดประโยชน์สาธารณะ กับประชาชนทุกระดับ และประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกันเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สามารถนำไปสู่การพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงอย่างยั่งยืนต่อไป