“ศรีสุวรรณ” ชี้ กลุ่มประชาชนปลดแอกชุมนุมหน้ารัฐสภากดดันให้รับญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายละเมิดกฎหมาย 10 ข้อ แนะแกนนำเตรียมรับข้อหาเพิ่ม อย่าปากกล้าขาสั่น ขอให้มันจบที่เรือนจำ
วันนี้ (25 ก.ย.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า กรณีที่มีการจัดการชุมนุม เพื่อให้สมาชิกรัฐสภายอมรับญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ถนนหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 63 นั้น ถือได้ว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ทั้งทางอาญาและแพ่ง 10 ข้อ ดังนี้
1) ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
2) ร่วมกันกระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างในหมู่ประชาชน
3) ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
4) ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค
5) กระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตราย หรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
6) ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคด้านความปลอดภัย หรือความไม่สะดวกในการจราจร
7) ร่วมกันวางหรือแขวนสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือกระทำด้วยประการใดในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร
8) ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
9) หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
10) ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใดๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือ รูปรอยใดๆ ที่บนถนน หรือในที่สาธารณะ
“แม้การขุมนุมฯ จะเป็นสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.34 แต่เป็นการฝ่าฝืนข้อยกเว้น ที่กำหนดไว้ในมาตราดังกล่าวด้วย การใช้สิทธิจึงใช้เป็นข้ออ้างมิได้ ข้อยกเว้นดังกล่าว คือ “เว้นแต่การฝ่าฝืนกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะ เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐเพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน”
“แกนนำผู้ชุมนุมทั้งหลาย เตรียมรับข้อหาข้างต้นเพิ่มจากตำรวจได้ เมื่อปากกล้า อย่าขาสั่นก็แล้วกัน #ให้มันจบในเรือนจำ” นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด