“ประยุทธ์” เผย ครม.อนุมัติโครงการคนละครึ่ง 3 พันบาท-เพิ่มวงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ย้ำเพื่อกระตุ้นค่าใช้จ่าย เพิ่มกำลังซื้อ ไม่ได้เพื่อหนุนผู้มีรายได้สูง
วันนี้ (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ได้มีการอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณเงินกู้ที่จะดูแลเป็นขั้นเป็นตอนซึ่งได้กำหนดวงเงินไว้จนถึงปีหน้าที่จะทยอยออกมาเป็นงวดๆ เป็นกลุ่มงานออกไป โดยวันนี้ที่ประชุม ครม.2 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการคนละครึ่ง 3,000 บาทให้ประชาชนทั่วไป และ 2. โครงการเพิ่มวงเงินซื้อของกินของใช้ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยการใช้วงเงินส่วนนี้เพื่อหมุนเวียนในระบบให้เกิดการบริโภค โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้าขายปลีก สิ่งที่ได้เน้นย้ำคือให้ประชาชนเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล หรืออีวอลเล็ต และคิวอาร์โค้ด ซึ่งทุกร้านจะต้องมีคิวอาร์โค้ดเพื่อรัฐบาลจะจ่ายเงินลงไปโดยไม่ต้องผ่านใคร โดย 2 โครงการนี้ที่ ครม.อนุมัติจะเป็นการกระตุ้นค่าใช้จ่าย เพิ่มกำลังซื้อ ลดค่าครองชีพ เมื่อมีคนจับจ่ายใช้สอย พ่อค้าแม่ค้าในตลาดก็จะมีเงินไปต่อยอด ซื้อขายต่อไปเรื่อยๆ ตรงนี้ไม่ได้เป็นการสนับสนุนผู้ที่มีรายได้สูงแต่ประการใด
สำหรับรายละเอียดโครงการ วันนี้กระทรวงการคลังได้เสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ วงเงิน 51,000 ล้านบาท และช่วยเหลือประชาชนให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นจำนวน 24 ล้านคน ประกอบด้วย 1. โครงการคนละครึ่ง โดยรัฐบาลออกเงินให้ครึ่งหนึ่งจำนวนไม่เกินคนละ 3,000 บาทให้ประชาชนทั่วไปจำนวน 10 ล้านคน ซื้อสินค้าผ่านผู้ค้ารายย่อยที่เข้าร่วมโครงการ และ 2. โครงการเพิ่มวงเงินซื้อของกินของใช้ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน อีกคนละ 500 บาท/เดือน เป็นคนละ 700-800 บาท/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 63 หรือเท่ากับเพิ่มให้รวมคนละ 1,500 บาท
สำหรับโครงการ “คนละครึ่ง” จะมีการเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 63 ซึ่งจะต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย เนื่องจากวัตถุประสงค์คือต้องการร้านของกินของใช้ เช่น ร้านโชวห่วย หรือร้านธงฟ้า ส่วนร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่เป็นนิติบุคคล เช่น ร้านสะดวกซื้อ รัฐบาลจะไม่เปิดให้เข้าร่วมโครงการ
สำหรับประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการ จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และต้องไม่ใช่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถจองสิทธิผ่าน www.คนละครึ่ง.com ในวันที่ 16 ต.ค. 63 เวลา 06.00-23.00 น. โดยระบบจะเปิดรับต่อเนื่อง 10 ล้านคน หากวันแรกไม่เต็ม ก็จะเปิดรับวันต่อๆ ไปจนเต็มตามจำนวน ซึ่งภายหลังลงทะเบียนแล้วภายใน 2 วัน ผู้ลงทะเบียนจะได้รับข้อความ SMS แจ้งว่าผ่านการพิจารณาหรือไม่ จากนั้นให้เข้าไปโหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งรัฐบาลจะโอนวงเงิน 3,000 บาทให้แก่ผู้ได้สิทธินำไปซื้อของกินของใช้จากร้านค้ารายย่อยที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งร้านค้าจะมีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” โดยผู้ได้สิทธิต้องโอนเงินส่วนที่จะซื้อของเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตังของตัวเองด้วย เพราะรัฐบาลจะจ่ายให้ครึ่งหนึ่ง
ทั้งนี้ ผู้ได้สิทธิสามารถเริ่มใช้จ่ายในโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. 63 ในช่วงเวลา 06.00-23.00 น.ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 63 โดยรัฐบาลกำหนดช่วยจ่ายค่าซื้อสินค้าวันละไม่เกิน 100 บาท รวมแล้วไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน โดยจะต้องจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเท่านั้น
ผู้ที่ได้รับสิทธิแล้วจะต้องเริ่มใช้เงินครั้งแรกภายใน 14 วัน หลังจากได้รับ SMS หากไม่ใช้เงินระบบจะตัดชื่อออก เพื่อให้คนอื่นเข้ามาจองสิทธิใหม่ โดยผู้ที่ถูกตัดสิทธิยังสามารถมาลงทะเบียนใหม่ได้
สำหรับการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะให้วงเงินซื้อสินค้าเพิ่มอีกเดือนละ 500 บาท จากปัจจุบันที่ได้รับเดือนละ 200 และ 300 บาทแล้วแต่กรณี จะได้รับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 700 บาท กับ 800 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 63 รวมแล้วเท่ากับได้เงินเพิ่ม 1,500 บาท เนื่องจากรัฐบาลเห็นว่าคนกลุ่มนี้เข้าถึงเทคโนโลยีลำบาก ทำให้ไม่สะดวกที่จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง จึงมีมาตรการให้ความช่วยเหลือแยกออกมา